ซั่งไห่อิสต์ เผย (3 เม.ย.) ภาพชายจีนชาวก่วงซีจ้วง วัย 44 ปี แบกมารดาวัย 80 ปี ขึ้นหลังตลอดการเดินทางเพื่อหางานทำของเขา
ไต้ ซุ่นอู่ เกษตรกรชาวนาผู้นี้ พ่อของเขาเสียชีวิตตั้งแต่ที่ตัวเองยังเล็ก เคยผ่านการแต่งงานและหย่าร้าง มีลูกสาวหนึ่งคน ส่วนมารดาผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเขา ก็ป่วยเป็นอัมพาตเพราะหกล้มตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน เขาจึงดูแลแม่เพียงลำพังมาตั้งแต่นั้นมา
ไต้ กล่าวว่า เขาได้ปลูกผลไม้สวน พริกไทย และเลี้ยงหมูเพื่อยังชีพเลี้ยงดูมารดา และลูกสาวของเขาที่เพิ่งจะขึ้นชั้นมัธยมในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทว่าปัญหาการเงินขัดสนก็ดำเนินมาเรื่อย จนเขาตัดสินใจเดินทางออกจากหมู่บ้านเพื่อเข้าไปในเมืองหลงเซิน เพื่อหางานทำตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา
ไต้ถูกปฏิเสธ ไม่รับเข้าทำงานครั้งแล้วครั้งเล่า เนื่องจากอายุมากเกินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านชำ ร้านอาหาร หรือ ไซต์ก่อสร้าง จนที่สุดก็มาได้งานแบกถังน้ำดื่ม โดยเขาต้องแบกน้ำไปส่งที่หมายซึ่งรถไม่สามารถเข้าถึง มีรายได้ 2 หยวนต่อถัง
สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตฯ ประทับใจกับเรื่องราวของเขา คือทัศนคติชีวิต ไต้บอกว่า ความลำบากของคนรุ่นแม่ของเขานั้น หนักหนากว่าเขามากนัก ทั้งสงคราม และความอดอยากแร้นแค้น แม่ของผมยังเลี้ยงดูพวกเรามาได้ในสถานการณ์อย่างนั้น ตอนนี้ แม่ผมแก่แล้ว ทำไมผมจะทำให้ท่านบ้างไม่ได้
ในเมืองหลงเซิน ที่เขาเข้ามาหางานทำได้นี้ อยู่ร่วมห้องพักกับลูกสาว และเพื่อนของเขาอีก 3 คน ทุกเช้าก่อนไปทำงาน เขาจะเช็ดตัว สวมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แม่ หวีผม และเปิดทีวีเผื่อแม่ไม่เหงา เขายังตัดอาหารเป็นคำๆ และป้อนเธอทุกมื้อ และยังซื้อลูกอมของโปรดให้แม่เป็นครั้งคราวด้วย
การอุทิศตนให้แม่ของไต้ สร้างความประทับใจให้กับชาวสังคมออนไลน์ บางคนแสดงความเห็นว่า สังคมเวลานี้ มักจะเห็นแต่คนที่ใช้เวลากับเรื่องไร้สาระ พร่ำบ่นถึงความลำบากของตัว หาคนที่จะให้เวลากับแม่ของตนเองนั้นยากนัก