xs
xsm
sm
md
lg

จับตาอะลีบาบาซื้อหุ้น 382 ล้านดอลลาร์บริษัทสร้างหนัง ฝันเป็นเน็ตฟลิกซ์แห่งจีนหรือมิใช่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แจ็ก หม่า อวิ๋น ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารอะลีบาบากรุ๊ป ขณะไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน – เอเอฟพี
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - อะลีบาบากรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซแดนมังกรรุกขยายอาณาจักรสู่ธุรกิจบันเทิงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเข้าซื้อหุ้นมูลค่า 382 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปักกิ่งเอ็นไลต์มีเดีย (Beijing Enlight Media)

จากเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์และโทรทัศน์ของจีนรายนี้ระบุว่า บริษัทได้ขายหุ้นมูลค่าดังกล่าวแก่สาขาของอะลีบาบากรุ๊ปในสัปดาห์นี้ หรือราวร้อยละ 8.8 ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีการมองกันว่า อะลีบาบาดูเหมือนกำลังพยายามจะสวมบทบาทเป็น “เน็ตฟลิกซ์” (Netflix) แห่งประเทศจีน หลังจากบริษัทวิดีโอออนไลน์สัญชาติอเมริกันรายนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง

จากข้อมูลของไอรีเสิร์ช (iResearch) คาดว่า ตลาดวิดีโอออนไลน์แดนมังกรจะขยายตัวกว่า 2 เท่าถึง 90,000 ล้านหยวน หรือราว 540,000 ล้านบาท จาก 36,000 ล้านหยวน หรือราว 180,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งจะเป็นช่องทางทำกำไรใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ โดยก่อนหน้านี้อะลีบาบาเที่ยวซื้อหุ้นของบริษัทบันเทิงหลายราย ได้แก่การซื้อหุ้นใหญ่ของไชน่าวิชั่น ( ChinaVision) และเปลี่ยนชื่อเป็นอะลีบาบา พิกเจอร์ส กรุ๊ป (Alibaba Pictures Group) การซื้อหุ้นร้อยละ 16.5ในโยวคู่ ถู่โต้ว ยักษ์ใหญ่วิดีโอออนไลน์ของจีน และการซื้อหุ้นร้อยละ 8 ในหวาอี้บราเทอร์ส บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์สัญชาติมังกร

สำหรับภาพยนตร์ ที่เอ็นไลต์มีเดียสร้างนั้น ได้รับความนิยมอย่างสูงในจีน โดยเป็นผู้สร้างและผู้จำหน่าย “ลอสต์ อิน ไทยแลนด์” ( Lost in Thailand) ซึ่งทำรายได้สูงสุดในจีนเมื่อปี 2555 และยังช่วยกระตุ้นให้การท่องเที่ยวของไทยยิ่งบูมขึ้นไปอีก

ด้านเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการให้บริการวิดีโอออนไลน์ภาพยนตร์อเมริกันเรื่อง “เฮาส์ ออฟ คาร์ด” ( House of Cards) กำลังวางแผนลงทุนในจีน เพื่อนำภาพยนตร์ที่สร้างบนแดนมังกรมาเผยแพร่ออนไลน์ อย่างไรก็ตาม จากบทเรียนของกูเกิ้ล ยูทู้ป เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ที่ล้วนแล้วแต่ถูกบล็อกในจีนทำให้เน็ตฟลิกซ์ ต้องคิดหนัก
จากการเปิดเผยของเท็ด ซาแรนดอส หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเนื้อหาภาพยนตร์ของเน็ตฟลิกซ์ให้สัมภาษณ์ที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันจันทร์ ( 2 มี.ค.) เน็ตฟลิกซ์จะไม่ใช้กลยุทธ์แสวงหาผู้ถือหุ้นส่วนในจีน เพราะจะมีปัญหายุ่งยากซับซ้อนในด้านการบริหาร

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีผู้ถือหุ้นในท้องถิ่น เน็ตฟลิกซ์ก็จำเป็นต้องขอใบอนุญาตประกอบการในจีนประมาณ 8 ฉบับ นอกจากนั้น เน็ตฟลิกซ์ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการเซ็นเซอร์และกฎระเบียบในจีน โดยการเซ็นเซอร์ของจีนเคยทำให้การฉายออนไลน์ซีรีย์ “เฮาส์ ออฟ คาร์ด” ปีที่ 3 ของเน็กฟลิกซ์ล่าช้ากว่ากำหนดไม่ต่ำกว่า 6 เดือนมาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น