เอเจนซี - นายหลิว ฮั่น มหาเศรษฐีเหมืองจีน วัย 48 ปี ผู้ต้องโทษในคดีฆาตกรรม 9 ศพ และคดีอาชญากรรมทางการเงิน เป็นมาเฟียเปิดบ่อนพนัน ค้าอาวุธปืนผิดกฎหมาย ได้ถูกประหารชีวิตแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหวา สื่อจีนรายงาน (10 ม.ค.) ว่า นายหลิว ฮั่น มหาเศรษฐีเหมืองจีนวัย 48 ปี ได้ถูกประหารชีวิตในความผิดฐานเป็นตัวการใหญ่ขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่น อยู่เบื้องหลังอาชญากรรม พร้อมกับน้องชายของเขา นายหลิว เว่ย และผู้ช่วยของตนอีก 3 คน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ก.พ. โดยทั้ง 5 คน ได้รับอนุญาตให้พบหน้าครอบครัวก่อนถูกประหารฯ
ทั้งนี้ หลิว ฮั่น มาเฟียเหมืองจีน ได้ถูกศาลประชาชนหูเป่ยพิพากษาประหารชีวิต เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ปีที่แล้ว ในความผิดฐานเป็นตัวการใหญ่ขบวนการทุจริตคอร์รัปชั่น อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมต่างๆ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนักธุรกิจเอกชน ซึ่งถูกติดตามตรวจสอบการทุจริตฯ จากรัฐบาลจีนภายใต้การนำของสี จิ้นผิง ในจำนวนนั้นยังรวมถึงนายหลิว หย่ง น้องชายของหลิวฮั่น ซึ่งถูกศาลตัดสินประหารชีวิตเช่นกัน ขณะที่สมาชิกแก็งค์มาเฟียคนอื่นๆ ต่างก็ได้รับโทษต่างๆ กันไป มีตั้งแต่จำคุก 11 ปีขึ้นไป จนถึงประหารชีวิต
ไมโครบล็อกของซีซีทีวีและซินหวา ระบุว่า พี่น้องมาเฟียตระกูลนี้ ร่วมกับสมาชิกแก็งค์มาเฟีย 36 คน ก่อคดีฆาตกรรมโดยเจตนา คำฟ้องของอัยการฯ นั้นระบุว่านายหลิว วัย 48 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวหาถึง 15 ข้อ ทั้งฆาตกรรม อาชญากรรมทางการเงิน การเปิดบ่อนการพนัน การค้าอาวุธปืนผิดกฎหมาย โดยอัยการระบุว่านายหลิวและพวกอีก 35 คนกอบโกยผลประโยชน์ไปแล้วถึง 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากอาชญากรรมดังกล่าวรวมทั้งก่อคดีฆาตกรรมอย่างน้อย 9 ศพ
ตลอดเวลาที่ถูกคุมขัง หลิว ฮั่น ยืนกรานปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้เป็นเจ้าพ่อมาเฟีย ไม่เคยฆ่าใคร และไม่ได้ค้าปืนเถื่อน ขณะที่กิจการเหมืองของเขา บริษัทฮั่นหลง (ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2540) เป็นกิจการระดับประเทศ ใหญ่โตขนาดเตรียมวางแผนซื้อกิจการของออสเตรเลียอย่าง ซันแดนซ์ รีซอร์ส ผู้ดำเนินธุรกิจส่งออกเหล็กในแอฟริกาตะวันตก โดยปัจจุบันมีธุรกิจมากมายกว้างขวางในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค
รายงานข่าวกล่าวว่า รัฐบาลจีนได้ลุยปราบแหล่งมาเฟียของหลิว ภายใต้กิจการเหมือง ฮั่นหลงมายนิ่ง ซึ่งปักหลักอยู่ที่มณฑลเสฉวน อันเป็นฐานอำนาจของโจว หย่งคัง อดีตผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้านความมั่นคง และยังเป็นหนึ่งในผู้นำที่ทรงอิทธิพลในทศวรรษที่ผ่านมาของจีน ซึ่งได้ถูกคณะผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเห็นพ้องให้ไต่สวนคดีฉ้อราษฎร์บังหลวงเช่นกัน
แหล่งข่าวกล่าวว่า หลิวเคยร่วมธุรกิจกับ โจว ปิน ลูกชายคนโตของโจว หย่งคัง และแม้ว่าสื่อรัฐบาลจะยังไม่ได้เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องกับโจว หย่งคัง แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า มาเฟียหลิว เติบโตผงาดขึ้นมาในยุคที่ โจว หย่งคังเป็นนายใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเสฉวน
วิลลี แลม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่า คดีประหารพี่น้องหลิว ถูกจับตาเป็นพิเศษเพราะมีความเกี่ยวพันกับคนในครอบครัวของโจว หย่งคัง
แลม กล่าวว่า รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับคดีนี้อย่างมาก ด้วยเป็นหนึ่งในคดีทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งพัวพันถึงตัวการใหญ่ และเป็นผลงานเรียกศรัทธาครั้งสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์ นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสี จิ้่นผิง ก้าวขึ้นสู่อำนาจบริหารสูงสุด