xs
xsm
sm
md
lg

90 เปอร์เซ็นต์ของเมืองในประเทศจีน ล้มเหลวรักษาคุณภาพอากาศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางแบบสวมหน้ากากป้องกันหมอกมลพิษขณะเดินแบบเครื่องเพชรเครื่องทอง ในเมืองหนันจิง มณฑลเจียงซู เมือวันที่ 7 ธ.ค. 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่เมืองต่างๆทั่วประเทศจีนโดนหมอกมลพิษยึดครองเมืองกันย่ำแย่ (แฟ้มภาพ เอเอฟพี)
รอยเตอร์ส—กระทรวงพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจีน ระบุ 90 เปอร์เซ็นต์ ของเมืองใหญ่ในแผ่นดินใหญ่ ล้มเหลวในการปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพอากาศในปี 2557 ขณะที่รัฐบาลกำลังลุย “สงครามต่อต้านมลพิษ”

กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งจีน แถลงผ่านเว็บไซต์ขององค์กร (www.mep.gov.cn) เมื่อวานนี้(2 ก.พ.) ว่า จากการติดตามคุณภาพอากาศในเมืองต่างๆ 74 เมือง ผลปรากฏมีเพียง 8 เมืองเท่านั้น ที่ประสบความสำเร็จในการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เพิ่มโอโซนในอากาศ ถึงขีดมาตรฐานระดับชาติ

ขณะนี้ชาวจีนกำลังผจญวิกฤตมลพิษอากาศ กลุ่มร้องทุกข์ประท้วงขยายวง เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งขจัดหมอกควัน (smog) และความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อปีที่แล้ว(2557) รัฐบาลได้ประกาศ จะลุย “สงครามต่อต้านมลพิษ” กำจัดกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน และลดการบริโภคถ่านหิน

ในปี 2556 มีเมืองเพียงสามเมือง ได้แก่ ไห่โข่ว เมืองเอกมณฑลไห่หนัน (ไหลำ) เมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติทิเบต และเมืองตากอากาศชายทะเลโจวซัน ที่คุณภาพอากาศได้มาตรฐาน

ในปีที่แล้ว (2557) มีเมืองที่บรรลุมาตรฐานคุณภาพอากาศ เพิ่มขึ้น ได้แก่ เซินเจิ้น ฮุ่ยโจวและจูไห่ในมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง), เมืองฝูโจวในมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) และคุนหมิง เมืองเอกของอวิ๋นหนัน (ยูนนาน)

ส่วนกลุ่มเมืองที่มีสภาพอากาศเลวร้ายที่สุด 10 เมืองในปีที่แล้ว (2556)นั้น มี 7 เมือง ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมหนักในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งแวดล้อมด้วยเมืองเพื่อนบ้านอย่างกรุงปักกิ่ง โดย 6 เมืองในเหอเป่ย ได้แก่ เป่าติ่ง ซิงไท่ สือจยาจวง ถังซัน หันตัน และเหิงสุ่ย ติดอันดับหกเมืองที่อากาศแย่มากที่สุด

กระทรวงวัฒนธรรมระบุค่าดัชนี PM2.5 ในอาณาบริเวณ ปักกิ่ง-เหอเป่ย-เทียนจิน อยู่ที่ 93 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเมื่อปีที่แล้ว เปรียบเทียบกับค่าดัชนีมาตรฐานของรัฐ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เรียก PM2.5 นี้ สามารถแทรกเข้าสู่ปอด ทำลายสุขภาพ

มณฑลเหอเป่ยเป็นเป้าหมายแรกของรัฐบาลในการดำเนินการมาตรการลดหมอกมลพิษ ขณะที่เหอเป่ยก็ต้องดิ้นรนหาแหล่งกระตุ้นอัตราเติบโตใหม่

 
กำลังโหลดความคิดเห็น