เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - แดนมังกรเผยเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 7.4 ในปี 2557 ตามที่คาดการณ์ แต่เป็นการขยายตัวระดับต่ำสุดในรอบสองทศวรรษกว่า แถมยังพลาดเป้าหมายการเติบโตประจำปีเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2541
รายงานข่าว (20 ม.ค.) กล่าวว่า ข้อมูลเหล่านี้อาจช่วยปูทางให้บรรดาผู้นำจีนตัดสินใจปรับลดเป้าหมายการเติบโตของปี 58 เหลือร้อยละ 7 ระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมี.ค. ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวในที่ประชุมคณะมุขมนตรี (รัฐบาล) วานนี้ว่า “การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเข้าสู่ดุลยภาพบทใหม่ (new normal) แล้ว”
สำนักงานสถิติแห่งชาติเสริมว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมแห่งชาติ หรือจีดีพี (GDP) ไตรมาสสี่ปีก่อน ขยายตัวที่ร้อยละ 7.3 จากช่วงต้นปี ซึ่งมีค่าเท่ากับอัตราเติบโตของไตรมาสสาม และอยู่เหนือความคาดหมายของตลาดที่ประเมินไว้ร้อยละ 7.2 เพียงเล็กน้อย
นายกฯ หลี่ กล่าวว่า ดุลยภาพใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญช่วยให้รัฐบาลเอาชนะอุปสรรคนานาประการ ในช่วงที่เศรษฐกิจจีนยังคงผจญความกดดันขาลงครั้งใหญ่ โดยภารกิจหลักจะยังครอบคลุมศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจชาติ ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้าง ตามความพยายามที่มุ่งสู่อัตราเติบโตระดับกลาง-สูง
ด้านธนาคารกลางแห่งประเทศจีนแถลงว่า จะดำเนินมาตรการและนโยบายด้านการเงินอย่างเหมาะสม ไม่รัดตึงหรือหย่อนยานจนเกินไป และส่งเสริมการปรับเป้าหมายในภาคเศรษฐกิจที่มีความจำเป็น
ตัวเลขการส่งออกเดือนธ.ค. ซึ่งเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ได้ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจบางส่วน ส่วนการเติบโตของการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (FAI) กลับชะลอตัวที่ร้อยละ 15.7 ในช่วงสิ้นปี 57 ลดลงจากร้อยละ 15.8 ของช่วง 11 เดือนแรก และร้อยละ 19.6 ของปี 56
ภาคการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ก็เติบโตร้อยละ 10.5 ในปีก่อน เย็นตัวลงอย่างมีนัยยะจากร้อยละ 19.8 ของปี 56 ขณะที่ภาคการผลิตอุตสาหกรรมโตขึ้นร้อยละ 7.9 ในเดือนธ.ค. เพิ่มจากร้อยละ 7.2 ของเดือนพ.ย. ส่วนภาคค้าปลีกเดือนธ.ค. โตร้อยละ 11.9 ต่อจากร้อยละ 11.7 ของเดือนพ.ย. และร้อยละ 13.6 ของเดือนธ.ค. 56
ขณะที่วานนี้ (19 ม.ค.) ตลาดหลักทรัพย์กลุ่ม A-share ของจีน ได้ร่วงกราวร้อยละ 8 ซึ่งถือว่ามากสุดในรอบหกปีที่ผ่านมา หลังทางการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน ซึ่งนักเล่นหุ้นเฝ้าติดตามใกล้ชิดเพื่อเป็นข้อมูลในการซื้อ-ขายหุ้น โดยตลาดฯ ฟื้นกลับสู่สภาพปกติแล้วในวันนี้
กูรูด้านเศรษฐกิจบางส่วนชี้ว่า ปรากฏการณ์ในตลาดหุ้นจีนวานนี้เป็นผลมาจากมาตรการปราบปรามธุรกิจของนายหน้าค้าหุ้น และแผนการของรัฐบาลที่จะคุมเข้มภาคธนาคารเงา (shadow banking) มากขึ้น โดยคณะกรรมการตรวจสอบควบคุมหลักทรัพย์จีน (CSRC) สั่งแบนสามบริษัทจีน ได้แก่ ซีติค (Citic Securities), ไห่ทง (Haitong Securities) และกั๋วไท่ จวินอัน (Guotai Junan Securities) เป็นเวลา 3 เดือน
แถลงการณ์คืนวานนี้ของซีเอสอาร์ซีกล่าวให้นักลงทุนใจเย็น และไม่ยึดติดนโยบายของหน่วยงานมากเกินไป ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ปักกิ่งกำลังต้องการหลีกเลี่ยงความชุลมุนวุ่นวายทางเศรษฐกิจนอกเหนือจากที่เป็นอยู่
