ซั่งไห่อิสต์ - เมื่อครั้งที่แจ็ก หม่าคว้าตำแหน่งมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในเอเชียไปครองนั้น ลี กาชิงยังรักษามาดสุขุมเยือกเย็นไว้ได้ เพราะลี ซึ่งก็เหมือนดาวคนอื่น ๆ ที่ร่วงก่อนหน้าเขา รู้ดีว่า งานกลับมาทวงคืนบัลลังก์ มันยังไม่จบง่าย ๆ
การประกาศแผนปรับโครงสร้างบริษัทเฉิงกง โฮลดิ้งก์ มูลค่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของลีส่งผลให้หุ้นบริษัทเฉิงกงพุ่งพรวดร้อยละ 15 ซึ่งพุ่งสูงสุดในรอบ 6 ปี จากรายงานของบลูมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ (12 ม.ค.) ส่วนหุ้นบริษัทฮัตชิสัน วัมเปา ซึ่งลีถือหุ้นร้อยละ 50 นั้น ดีดขึ้นเกือบร้อยละ 13
ความร่ำรวยของมหาเศรษฐีนักธุรกิจขิงแก่รสชาติเผ็ดร้อน วัย 86 ปีผู้นี้ทะยานขึ้นทันที โดยมีสินทรัพย์มากถึง 30,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อปิดตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ (12 ม.ค.) มากกว่าแจ็ก หม่า ประธานบริษัทอะลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BABA) แห่งเมืองหังโจวเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ โดยบลูเบิร์กระบุว่า จนถึงวันที่ 9 ม.ค. 2558 หม่ามีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 28,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ลีเสนอปรับโครงการสินทรัพย์ในบริษัทของเขา โดยแตกออกเป็นบริษัทใหม่ 2 แห่ง โดยบริษัทหนึ่งดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงและจีนเป็นหลัก และอีกบริษัทดูแลธุรกิจนอกเหนือจากนี้ ตั้งแต่กิจการด้านสาธารณูปโภคและท่าเรือไปจนถึงธุรกิจค้าปลีกในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
แอนดรูว์ ลอว์เรนซ์ นักวิเคราะห์ของซีไอเอ็มบี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บีเอชดี กล่าวว่าการประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่างประหลาดใจ และมีการถกเถียงกันมานานแล้ว
ด้านหม่านั้น ซั่งไห่อิสต์ระบุว่า ตอนนี้อาจกำลังเปิดขวดแชมเปญฉลองแล้วก็ได้ เพราะเขาไม่ชอบให้ใครมายกย่องความมั่งคั่งสุทธิของตนเอง
ความร่ำรวยที่เพิ่มพูนของลียังทำให้เขาจ่อตำแหน่งบุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 15 ในโลก โดยแซงหน้ามหาเศรษฐีธุรกิจค้าปลีกชาวยุโรปนามว่า นายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของโมเอต์ เฮนเนสซี หลุยส์ วิตตอง เอสเอ หรือ แอลวีเอ็มเอช ( LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton SA ) อีกด้วย