เอาคืนกันถึงตาย!...ผู้โดยสารจีนยัวะเที่ยวบินล่าช้า ทะเลาะกับนักบิน เปิดประตูฉุกเฉินขณะเครื่องกำลังขึ้นบิน

เอเจนซี-เผยกลุ่มผู้โดยสารเที่ยวบินภายในจีน กระชากประตูฉุกเฉินเปิดออกในขณะที่เครื่องบินขึ้นบิน หลังจากทะเลาะวิวาทกับนักบิน เรื่องเที่ยวบินล่าช้าเนื่องจากฝนตกและมีหิมะ

กรณีกลุ่มผู้โดยสารชาวจีนบนเที่ยวบิน MU2036 ของสายการบิน ไชน่า อีสต์เทิร์น แอร์ไลน์ กระชากเปิดประตูฉุกเฉิน 3 บาน ของเครื่องบินในขณะที่เครื่องบินกำลังแล่นไปบนรันเวย์เตรียมขึ้นบินจากสนามบินในนครคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนัน (ยูนนาน) ออกเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง จนทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปนั้น ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนผู้คน 25 คน พร้อมกับได้คุมขัง (administrative detention)* ผู้ก่อเหตุ 2 คน เป็นเวลา 15 วัน

เหตุกลุ่มผู้โดยสารเปิดประตูฉุกเฉินขณะที่เครื่องบินกำลังขึ้นบินนี้ กลายเป็นข่าวฮือฮาซ้ำซากอีกท่ามกลางกระแสผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวจีน แผลงฤทธิ์จนเกิดความวุ่นวายบนเครื่องบิน

หลังการไต่สวน รายงานข่าวชิ้นล่าสุดเผยแพร่ในวันนี้(11 ม.ค.) ได้ระบุว่า เที่ยวบิน MU2036 ทำการบินเที่ยวแรกจากกรุงดากา ประเทศบังคลาเทศ มายังเป้าหมายปลายทางคุนหมิงในคืนวันศุกร์(9 ม.ค.) ได้ประสบปัญหาสภาพอากาศฝนตกและหิมะตกหนัก ทำให้เที่ยวบินล่าช้าไป 3 ชั่วโมง ผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งที่รอขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินนี้ที่สนามบินในนครคุนหมิง เพื่อเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เกิดหงุดหงิดโมโหเมื่อรู้ว่าเครื่องบินฯล่าช้าไปกว่า 2 ชั่วโมง จากกำหนดเวลาเดิม 20.45 น. ช้าไปถึงเวลา ประมาณ 23.00 น. ทั้งนี้ สื่อฮ่องกงเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานวันนี้(11 ม.ค.) โดยอ้างรายงานข่าว ไชน่า นิวส์ เซอร์วิซ (China News Service)

รายงานข่าวฯเล่าว่า ตอนแรกผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งจะไม่ยอมขึ้นเครื่องฯและเรียกร้องค่าชดเชย แต่เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาเจรจา จนผู้โดยสารทั้งหมดได้ขึ้นเครื่องในเวลา 01.40 น.

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้โดยสารที่ยังโมโหก็ยืนเดินไปมาวุ่นวาย พูดเสียงดังล้งเล้ง ใช้ถ้อยคำรุนแรง ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงในการกวาดหิมะบนเครื่องบิน เมื่อเคลียร์เครื่องเรียบร้อยเที่ยวบินก็เริ่มออกแล่นไปบนรันเวย์เมื่อเวลา 03.17 น. เตรียมขึ้นบินแล้ว รวมเวลาการล่าช้า เกือบ 7 ชั่วโมงจากกำหนดเวลาเดิม แต่กลุ่มผู้โดยสารที่โมโหไม่เลิก ก็เผด็จศึกเปิดประตูทางออกฉุกเฉิน 3 ช่อง เพื่อบังคับให้นักบินหยุดเครื่อง จะกลับไปที่ประตูขึ้นเครื่อง (Boarding Gate)

รายงานข่าวบางชิ้น ได้อ้างอิงแหล่งข่าว เวยปั๋ว (คล้ายทวิตเตอร์) ซึ่งถูกลบออกในเวลาต่อมา ว่าเกิดศึกน้ำลายทะเลาะวิวาทระหว่างนักบินกับกลุ่มผู้โดยสารที่โมโหไม่เลิก ทำให้กลุ่มผู้โดยสารยิ่งยัวะเป็นฟืนเป็นไฟ

ตามข้อความโพสต์ในเวยปั๋ว ระบุว่า แอร์บนเครื่องบินถูกปิดเมื่อเวลา ราว 03.00 น. และผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งโวยวายว่าหายใจลำบาก หายใจแทบไม่ได้ ต้องการออกจากเครื่อง เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ลูกเรือปฏิเสธ

ข้อความโพสต์บนเวยปั๋ว ยังระบุอีกว่า นักบินได้ตระโกนโต้ตอบไปว่า “พวกคุณจะตายกันเดี๋ยวนี้หรือไง? ถ้ายังไม่ตาย ก็รอหน่อย”

นักบินพูดจบ เครื่องบินก็ออกวิ่งไปบนรันเวย์ในทันที ทำให้ผู้โดยสารบางคนที่ไม่นั่งให้ดีๆ ล้มไปกับพื้น

ด้านสำนักข่าวซินหวา กระบอกเสียงเอกของทางการจีน รายงานว่า เหตุการณ์นี้เป็นที่ฮือฮามากบนโลกสังคมออนไลน์จีน

ในรายงานข่าวซินหวา ยังว่า “หลังจากที่ผู้โดยสารต้องทนรอนานถึง 7 ชั่วโมง ทางสายการบินได้ทำอะไรเพื่อช่วยสงบสติอารมณ์ผู้โดยสารหรือไม่?” ฟาน ไค บรรณาธิการนิตยสารการบิน เขียนบนไมโครบล็อกของเขา

แต่หลายคนก็คิดว่าการโต้ตอบของกลุ่มผู้โดยสารไม่ถูก “มันอันตรายมากในการเปิดประตูฉุกเฉินแบบนั้น” หลี่ เฉิงเหว่ย นักกฎหมายประจำสำนักงานกฎหมายอิ๋งเคอ (Yingke law firm) ในคุนหมิง “ผู้โดยสารควรปกป้องสิทธิของพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่สร้างความเสี่ยงอันตรายให้แก่ผู้อื่น”

รายงานข่าวยังระบุอีกว่า ลูกเรือทั้งหมดได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และมิได้ใช้วาจาถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม

ผู้โดยสารแซ่ โจว และไกด์ท่องเที่ยวถูกขังลืม 15 วัน โทษฐานเปิดประตูฉุกเฉิน และเสี้ยมผู้โดยสารด้วยข้อมูลผิดๆ

ทั้งนี้ กลุ่มสื่อ รายงานเมื่อกลางเดือนที่แล้ว (ธ.ค.2557) ระบุ ชายจีนวัยกลางคนโดยสารเที่ยวบินของสายการบิน ซย่าเหมิน จากนครหังโจวไปยังนครเฉิงตูเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2557 ได้เปิดประตูฉุกเฉินเพื่อ “สูดอากาศบริสุทธิ์” ระหว่างที่เครื่องบินกำลังขึ้นบินจากสนามบินในหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ทั้งนี้เป็นรายงานจากสื่อจีน เซาท์เทิร์น เมโทรโพลิส เดลี่ (Southern Metropolis Daily) รายงาน

*administrative detention หมายถึง การควบคุมตัวบุคคลที่ทำโดยอำนาจของฝ่ายบริหาร การควบคุมตัวไม่ได้กระทำโดยอำนาจศาล หรือไม่ได้ถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดทางอาญาในฐานะ “ผู้ต้องหา” แต่ถูกจับกุมและควบคุมตัวตามกฎหมายที่ให้อำนาจฝ่ายบริหาร ซึ่งอาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ปกติ หรือ สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อความจำเป็นในการบริหารสาธารณะของฝ่ายบริหาร เช่น ความจำเป็นในการป้องกันภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสังคมหรือกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น การควบคุมตัวผู้ที่หลบหนีเข้าเมือง ควบคุมตัวบุคคลที่เชื่อว่าปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในสังคม