แม้หวัง เจี้ยนหลิน อภิมหาเศรษฐีผู้รั้งตำแหน่งร่ำรวยที่สุดบนแดนมังกร จะไม่รู้จักมิกกี้เมาส์ หรือผูกพันกับโดนัลด์ ดั๊ก สองตัวละครแห่งจินตนาการสัญลักษณ์อเมริกันชน แน่นอน เพราะเขาเติบโตมาในกองทัพแดง ยุคทศวรรษ 1950 ณ ภูมิภาคอุตสาหกรรม มณฑลเสฉวน แต่ ณ วันนี้ “หวัง เจี้ยนหลิน" ประธานกลุ่มต้าเหลียนวั่นต๋า ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 แห่งในประเทศจีน มีทรัพย์สินมูลค่า 4,600 ล้านดอลลาร์ กำลังประกาศทาบและอาจจะดับฝังกลบอนาคตดิสนีย์แลนด์แดนมหัศจรรย์ ซึ่งรุกคืบสร้างอาณาจักรในจีนทั้งที่ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (กำลังจะเปิดปีหน้า) เลยทีเดียว
สื่อจีนรายงานคำกล่าวของ หวัง เจี้ยนหลิน หลังประกาศทุ่มทุนสร้าง วั่นต๋า มูฟวี่ ปาร์ค อาณาจักรฮอลลีวูดจีนแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า "อดีตที่ผ่านมากว่า 200 ปี คนจีนส่วนใหญ่ฝังหัวมาตลอดว่า ของๆ ฝรั่งมักจะดีเลิศกว่าจีนเสมอ และนี่จึงทำให้ผมทุ่มกว่า 50,000 ล้านหยวน สร้างสวนสนุกในกวางโจวและอู๋ซี สู้กับดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง"
หวัง เป็นผู้ประกอบการรุ่นแรกๆ ที่ได้รับอานิสงค์ความมั่งคั่งจากการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์จีน ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 แห่งในประเทศจีน ทั้งโรงแรมหรู อาคารสำนักงาน และช้อปปิ้งมอลล์ มีทรัพย์สินมูลค่า 4,600 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ธุรกิจของกลุ่มวั่นต๋ายังก้าวออกไปนอกประเทศ เป็นหุ้นส่วนกับทั้งวอล มาร์ท และโรงแรมสตาร์วูด มีแผนการก่อสร้าง “เลคชอร์ อีสต์ ทาวเวอร์” (Lakeshore East Tower) ตึกระฟ้าที่จะมีความสูงเป็นอันดับสามของนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ฟอร์บส์ จัดอันดับ หวัง เจี้ยนหลินเป็นเศรษฐีที่รวยอันดับ 232
สำหรับวั่นต๋านี้ การจะครองอาณาจักรธุรกิจในจีนได้ คือการรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในทางการเมือง เมื่อความร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลง หลังเฟื่องฟูมาหลายทศวรรษ นายหวัง จึงกำลังมองหาพื้นที่โอกาสและทิศทางใหม่ของธุรกิจ
เวลานี้ หวัง มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจระดับนานาชาติ และไม่ใช่แค่การทำธุรกิจเงินทอง แต่คือการสร้างอิทธิพลด้วยวัฒนธรรม ซึ่งสอดประสานกับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่ย้ำว่าผู้ประกอบการจีน ควรจะสร้างวัฒนธรรมจีนเป็นอำนาจใหม่ทางธุรกิจ
"หมดยุคโตเร็วของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว เวลานี้เป้าหมายของเราคือการสร้างและแผ่ขยายวัฒนธรรมจีนไปทั่วโลก" หวัง กล่าว
ในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย บ้านเกิดของวัฒนธรรมฉู่ยุคสงครามระหว่างรัฐที่มีชื่อเสียง เจริญก้าวหน้าทั้งในด้านการปกครอง ศิลปะหัตถกรรม นี้จะเป็นฐานทัพสำคัญของโครงการใหญ่ในการต่อกรกับอำนาจละมุนของตะวันตก ด้วยการผุดขึ้นของสถานที่สำคัญ 2 แห่ง บนถนนสายวัฒนธรรมยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร ใช้เงินทุนกว่า 50,000 ล้านหยวน
หนึ่งนั้น คือวั่นต๋า มูฟวีปาร์ค สวนสนุกกลางแจ้ง พร้อมเรือใบทองคำอันชวนให้นึกเทียบถึงซิดนีย์ โอเปราเฮาส์ที่จะประเดิมพาจินตนาการของผู้เข้าชมขี่ยานสำรวจอวกาศ บินท่องไปในมิติต่างๆ คล้ายบันดาลใจมาจากตำนานไซอิ๋ว ของจีนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
สองคือ ฮั่นโชว โรงละครยักษ์ ที่อลังการแพรวพราวดั่งโคมไฟสีแดง เฉกเช่นไฟปรารถนาอันแรงกล้าของชาวฮั่นในอดีต ... ที่นี่ ประกอบด้วยโรงละคร เวทีการแสดงที่เคลื่อนปรับเปลี่ยนได้ มีโรงกายกรรม กระทั่งสระน้ำใหญ่สำหรับการแสดงและเล่นกิจกรรมทางน้ำ
"วันนี้ประชาชนมีความต้องการเสพรับวัฒนธรรม และเราจำเป็นต้องสนองความต้องการนี้ ด้วยการผลิตวัฒนธรรมจีนอย่างมีนวัตกรรมเพียงพอกับคนรุ่นใหม่" หวัง กล่าว
หวัง เจี้ยนหลิน ก็เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีนคนอื่นๆ ซึ่งไม่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่และกาลเวลา เขาเริ่มสร้างอาณาจักรด้วยการขยายออกไปลงทุนนอกประเทศ ขยับขยายการลงทุนไปยังสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยปีก่อนวั่นต๋าทุ่มเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงแรมหรูในกรุงลอนดอนของอังกฤษ และเดือนที่แล้วก็เพิ่งซื้อตึกสูง 28 ชั้น ในกรุงมาดริดของสเปน
“ปี 2563 วั่นต๋าจะมีโรงแรมห้าดาวใน 12-15 เมืองหลักทั่วโลก ที่จะกลายเป็นแบรนด์จีนทรงอิทธิพลระดับนานาชาติ” หวัง กล่าว
หวัง เจี้ยนหลิน ยังมีชื่อเสียงมากในอเมริกา เมื่อเขาปิดการเจรจาซื้ออาณาจักรโรงภาพยนตร์ เอเอ็มซี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ โฮล์ดิ้งส (AMC Entertainment Holdings) ซึ่งทำให้วั่นต๋ากลายเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย และเพื่อให้มั่นใจว่า สามารถครองส่วนแบ่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลกราว ร้อยละ 20 หวังเดินหน้าเจรจาซื้อหุ้นใหญ่ของกิจการในฮอลลีวู้ดอีกหลายแห่ง ทั้งมโทร-โกลวิน-เมเยอร์ และไลออนเกต เอนเทอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นค่ายหนังเจ้าของภาพยนตร์ดังอย่าง The Hunger Games และ Twilight
หวัง ยังสร้างฮอลลีวูดจีน ที่เมืองท่าชิงเต่า พรั่่งพร้อมด้วยสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ 30 สตูดิโอ สวนสนุกในร่ม และสโมสรเรือยอร์ช จัดงานภาพยนตร์ที่เชิญดาราฮอลลีวูดระดับแนวหน้าพาเหรดเข้าร่วม อาทิ นิโคล คิดแมน, ลิโอนาร์โด ดิ คาปริโอ, จอห์น ทราโวลตา ตลอดจนซูเปอร์สตาร์ฮ่องกง เหลียงเฉาเหว่ย
ด้าน ซุ่น ยี่ซวง หุ้นส่วนใหญ่ของวั่นต๋าอีกคน ก็อยู่เบื้องหลังการออกไปซื้อหุ้นเครือข่ายโรงหนัง Hoyts ในออสเตรเลีย มูลค่ากว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เห็นได้ว่า ข้อตกลงการค้าเสรีระดับทวิภาคีระหว่างออสเตรเลียกับจีนนี้ ไม่เพียงเพื่อกิจการวิสาหกิจของรัฐบาลจีนเท่านั้น แต่ยังเอื้อต่อการที่บริษัทเอกชนจีนจะปรับตัวเองเข้ากับสิ่งที่รัฐบาลจีนต้องการด้วย
กีฬาก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมใหม่ ดังนั้น เมื่อประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ซึ่งชอบฟุตบอล ได้ออกมาแสดงความตั้งใจที่จะทำให้ฟุตบอลจีนก้าวไกล ไม่ว่าจะเข้าร่วมรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก หรือกระทั่งเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬานี้ ผู้ประกอบการจีนก็ประกาศขยับสนับสนุนทันที ทั้งสู่ว์ เจี่ยหยิน ยักษ์อสังหาริมทรัพย์จีนอีกราย กับแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ขณะที่ หวัง เจี้ยนหลิน ก็ลงทุนกับสถาบันกีฬาฟุตบอลในสเปน เพื่อบุกเบิกเส้นทางค้าแข้งให้กับนักฟุตบอลจีนรุ่นใหม่ๆ
ฟอร์บส เอเชีย เคยกล่าวยกย่องถึงความมุ่งมั่นของ หวัง เจียนหลิน ในการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งแห่งวัฒนธรรมจีน กับการใช้ศิลปศาสตร์ในการเดินหมากธุรกิจแบบตะวันตก สร้างความยั่งยืนในทุนมนุษย์ พร้อมๆ กับการใช้ทุนเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารธุรกิจ
ผู้เชี่ยวชาญฯ กล่าวว่า การแผ่ขยายวัฒนธรรมของจีน ก็ใช้วิธีเดียวกับฮอลลีวู้ด ซึ่งประสบความสำเร็จในการแผ่วัฒนธรรมป็อปของอเมริกัน จนครอบครองใจคนทั่วโลก หวัง เจี้ยนหลิน แห่งวั่นต๋ากำลังจะลุกขึ้นมาทำอย่างนี้เช่นกัน แต่ของหวัง เจี้ยนหลินจะต่างตรงที่ว่า เขาไม่ได้ทำเพราะความฝันส่วนตัวในโลกมายา แต่คือการดำเนินยุทธศาสตร์ที่โอบล้อมสอดรับตามนโยบายของรัฐบาลจีน อันจะมีแต่ได้กับได้ทั้งเงินและกล่อง ของธุรกิจเงินทองและวัฒนธรรมจีน