เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ในขณะที่รัฐบาลจีนพยายามขัดขวางการสร้างสนามกอล์ฟเหตุเพราะถือเป็นการใช้ทรัพยากรที่ดินอย่างสิ้นเปลือง แต่บรรดานักอสังหาริมทรัพย์กลับมองตรงกันข้าม ตั้งหน้าตั้งตาผุดสนามกอล์ฟยั่วน้ำลายคนรวย
สนามกอล์ฟ ไม่เพียงแต่สร้างปัญหาเรื่องการขาดแคลนที่ดิน แต่รัฐบาลจีนยังมองว่า กอล์ฟเป็นกีฬาของคนรวย ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมไม่มีปัญญาเล่น ดังนั้น เมื่อเดือน ก.ย. เป็นต้นมา รัฐบาลปักกิ่งจึงออกกฎ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ไล่ปราบปรามสนามกอล์ฟที่เปิดทำการเพราะถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทว่า บรรดานักพัฒนาในวงการอสังหาริมทรัพย์จีน กลับไม่หวั่นเกรงอำนาจรัฐ ไล่เปิดสนามกอล์ฟใหม่ขึ้นทั่วประเทศ จนกลายเป็นเกมแมวไล่จับหนูระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับเจ้าของสนามกอล์ฟ
ในมุมมองของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สนามกอล์ฟเป็น “ศูนย์กีฬา” ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญหากต้องการจะดึงดูดใจคนรวย ดังนั้น แม้รัฐจะไล่ปิดสนามกอล์ฟ แต่จีนก็มีสนามกอล์ฟผุดขึ้นจำนวนมากทุกปี
เอคคะนอมมิค อินฟอร์เมชั่น เดลี (Economic Information Daily) ในเครือซินหวา รายงานว่า ปัจจุบันจีนมีสนามกอล์ฟอยู่ทั่วประเทศมากถึง 521 แห่ง มากกว่าปี 2555 ถึง 47 แห่ง และเพิ่มขึ้นมากถึง 3 เท่าจากที่มีในปี 2547 ซึ่งมีอยู่เพียง 178 แห่ง
นายจิ้น ซาน นักวิจัยจากสำนักบัณฑิตสังคมศาสตร์ปักกิ่ง กล่าวว่า “สนามกอล์ฟที่เปิดเพิ่มมากขึ้น ทำให้รัฐบาลมหานครปักกิ่งต้องปราบปรามอย่างเข้มงวด และบังคับให้สนามกอล์ฟท้องถิ่นปิดทำการลง เพราะรัฐบาลเชื่อว่า สนามกอล์ฟเป็นการใช้ทรัพยากรที่ดินเมืองหลวงฟุ่มเฟือยเกินไป เพราะที่ดินมีอยู่จำกัด”
ด้านนายหลิว ฉีหลิน ผู้อำนวยการสำนักวิจัยของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ดีโอโวเลนเต เรียลตี้ ( Shanghai Deovolente Realty) กล่าวว่า ทั้งนักพัฒนาฯ และรัฐบาลท้องถิ่นต่างก็สนใจการพัฒนาสนามกอล์ฟ เพราะรู้ว่ามันช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการก่อสร้างใกล้เคียงได้
“นักพัฒนาที่ดินสร้างสนามกอล์ฟเพื่อดึงดูดคนรวย หลายเจ้าสร้างสนามกอล์ฟเพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มสำหรับโฆษณาขายบ้าน”
นอกจากนี้ ผู้บริหารอาวุโสของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เซี่ยงไฮ้ รายหนึ่ง ระบุว่า สนามกอล์ฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนรวยในการจะอวดฐานะของตน
“เราจึงโฆษณาสนามกอล์ฟเพื่อโน้มน้าวคนรวยให้สนใจโครงการของพวกเรา” ผู้บริหารคนดังกล่าว ระบุ “ตอนนี้เราพยายามจัดโปรแกรมแข่งกอล์ฟระดับชาติในปีหน้าให้ได้ เผื่อว่ามันจะช่วยโฆษณาโครงการฯของเราด้วย”
อนึ่ง ปัจจุบัน เมืองใหญ่ๆของจีน ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ หรือปักกิ่ง ต่างก็มีจำนวนคนรวยที่หันมาเล่นกอล์ฟมากขึ้น
นายโจ โจว ผู้ประกอบการรายหนึ่ง กล่าวว่า เงิน 800 หยวน หรือราวๆ 4,000 บาทที่เขาต้องจ่ายสำหรับเล่นกอล์ฟ 18 หลุม ถือว่าคุ้มค่า
“ผมแค่รักกีฬานี้ สำหรับผมมันไม่ได้ฟุ่มเฟือยอย่างที่รัฐบาลมอง ตอนนี้ ในโอลิมปิกยังจัดแข่งกอล์ฟเลย เพราะฉะนั้น มันตลกมากที่สั่งห้ามเล่น”
ด้านนายจิ้น กล่าวปิดท้ายว่า เป็นไปได้ว่ารัฐบาลอาจจะผ่อนปรนการห้ามเล่นกอล์ฟ หากประเทศนี้มีคนเล่นกอล์ฟสักประมาณ 20 ล้านคน “มันคงอีกนานมาก หรือไม่ก็ต้องรอให้จีนมีนักกอล์ฟระดับซูเปอร์สตาร์เกิดขึ้น
สนามกอล์ฟ ไม่เพียงแต่สร้างปัญหาเรื่องการขาดแคลนที่ดิน แต่รัฐบาลจีนยังมองว่า กอล์ฟเป็นกีฬาของคนรวย ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมไม่มีปัญญาเล่น ดังนั้น เมื่อเดือน ก.ย. เป็นต้นมา รัฐบาลปักกิ่งจึงออกกฎ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ไล่ปราบปรามสนามกอล์ฟที่เปิดทำการเพราะถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทว่า บรรดานักพัฒนาในวงการอสังหาริมทรัพย์จีน กลับไม่หวั่นเกรงอำนาจรัฐ ไล่เปิดสนามกอล์ฟใหม่ขึ้นทั่วประเทศ จนกลายเป็นเกมแมวไล่จับหนูระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับเจ้าของสนามกอล์ฟ
ในมุมมองของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สนามกอล์ฟเป็น “ศูนย์กีฬา” ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญหากต้องการจะดึงดูดใจคนรวย ดังนั้น แม้รัฐจะไล่ปิดสนามกอล์ฟ แต่จีนก็มีสนามกอล์ฟผุดขึ้นจำนวนมากทุกปี
เอคคะนอมมิค อินฟอร์เมชั่น เดลี (Economic Information Daily) ในเครือซินหวา รายงานว่า ปัจจุบันจีนมีสนามกอล์ฟอยู่ทั่วประเทศมากถึง 521 แห่ง มากกว่าปี 2555 ถึง 47 แห่ง และเพิ่มขึ้นมากถึง 3 เท่าจากที่มีในปี 2547 ซึ่งมีอยู่เพียง 178 แห่ง
นายจิ้น ซาน นักวิจัยจากสำนักบัณฑิตสังคมศาสตร์ปักกิ่ง กล่าวว่า “สนามกอล์ฟที่เปิดเพิ่มมากขึ้น ทำให้รัฐบาลมหานครปักกิ่งต้องปราบปรามอย่างเข้มงวด และบังคับให้สนามกอล์ฟท้องถิ่นปิดทำการลง เพราะรัฐบาลเชื่อว่า สนามกอล์ฟเป็นการใช้ทรัพยากรที่ดินเมืองหลวงฟุ่มเฟือยเกินไป เพราะที่ดินมีอยู่จำกัด”
ด้านนายหลิว ฉีหลิน ผู้อำนวยการสำนักวิจัยของบริษัทเซี่ยงไฮ้ ดีโอโวเลนเต เรียลตี้ ( Shanghai Deovolente Realty) กล่าวว่า ทั้งนักพัฒนาฯ และรัฐบาลท้องถิ่นต่างก็สนใจการพัฒนาสนามกอล์ฟ เพราะรู้ว่ามันช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการก่อสร้างใกล้เคียงได้
“นักพัฒนาที่ดินสร้างสนามกอล์ฟเพื่อดึงดูดคนรวย หลายเจ้าสร้างสนามกอล์ฟเพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มสำหรับโฆษณาขายบ้าน”
นอกจากนี้ ผู้บริหารอาวุโสของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เซี่ยงไฮ้ รายหนึ่ง ระบุว่า สนามกอล์ฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนรวยในการจะอวดฐานะของตน
“เราจึงโฆษณาสนามกอล์ฟเพื่อโน้มน้าวคนรวยให้สนใจโครงการของพวกเรา” ผู้บริหารคนดังกล่าว ระบุ “ตอนนี้เราพยายามจัดโปรแกรมแข่งกอล์ฟระดับชาติในปีหน้าให้ได้ เผื่อว่ามันจะช่วยโฆษณาโครงการฯของเราด้วย”
อนึ่ง ปัจจุบัน เมืองใหญ่ๆของจีน ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ หรือปักกิ่ง ต่างก็มีจำนวนคนรวยที่หันมาเล่นกอล์ฟมากขึ้น
นายโจ โจว ผู้ประกอบการรายหนึ่ง กล่าวว่า เงิน 800 หยวน หรือราวๆ 4,000 บาทที่เขาต้องจ่ายสำหรับเล่นกอล์ฟ 18 หลุม ถือว่าคุ้มค่า
“ผมแค่รักกีฬานี้ สำหรับผมมันไม่ได้ฟุ่มเฟือยอย่างที่รัฐบาลมอง ตอนนี้ ในโอลิมปิกยังจัดแข่งกอล์ฟเลย เพราะฉะนั้น มันตลกมากที่สั่งห้ามเล่น”
ด้านนายจิ้น กล่าวปิดท้ายว่า เป็นไปได้ว่ารัฐบาลอาจจะผ่อนปรนการห้ามเล่นกอล์ฟ หากประเทศนี้มีคนเล่นกอล์ฟสักประมาณ 20 ล้านคน “มันคงอีกนานมาก หรือไม่ก็ต้องรอให้จีนมีนักกอล์ฟระดับซูเปอร์สตาร์เกิดขึ้น
![สี จิ้นผิง-โอบามา และผู้นำชาติเอเปกถือจอบ ปลูกต้นไม้มิตรภาพระหว่างประชุมที่ปักกิ่ง [ชมภาพชุด]](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/557000013414201.JPEG)
