คาดธนาคารกลางจีนหั่นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก หลังประกาศปรับลดเหนือคาดครั้งแรก

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ ( 22 พ.ย.) อันเป็นความเคลื่อนไหวเหนือการคาดหมาย หลังมาตรการเสริมสภาพคล่อง เพื่อลดต้นทุนการกู้เงิน ที่ใช้ในช่วงครึ่งปีแรกไม่ได้ผล

ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.40 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.6 และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.75 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ( real interest rates) กลับมาอยู่ที่ระดับสมเหตุผล จากการชี้แจงของธนาคารกลางจีนในเว็บไซต์เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังเพิ่มเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากนโยบายอีก 1.2 เท่า จากเดิม 1.1 เท่าอีกด้วย

การตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งตลาดหุ้นทั่วโลกต่างขานรับ เกิดขึ้น หลังจากเศรษฐกิจจีนถูกกดดันอย่างหนักจากภาวะชะลอตัว และต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้น โดยจีดีพีของจีนในไตรมาส 3 ชะลอการเติบโตร้อยละ 7.3 จากร้อยละ 7.5 ในไตรมาส 2 และร้อยละ 7.4 ในไตรมาสแรก ของปี 2557

เอลิซ่า หลิว นักเศรษฐศาสตร์ประจำซีซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล ซีเคียวริตี้ส์ระบุว่า การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีน เนื่องจากเห็นว่า บริษัทผู้ประกอบการของจีนไม่สามารถแบกรับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่สูงในปัจจุบันได้ นอกจากนั้น ยังคาดว่า ธนาคารกลางจีนอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในไตรมาสหน้า เพื่อสู้กับแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดและผลกำไรของภาคอุตสาหกรรม ที่ชะลอการเติบโต

ทั้งนี้ ผู้คุมกฎของจีนได้ยกเลิกฟลอร์ของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เมื่อปีที่แล้ว เพื่อเปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์แข่งขันปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อหาลูกค้า อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ยังไม่สามารถทำให้ต้นทุนเงินกู้ของบริษัทเอกชนลดลงได้ โดยยังคงแบกรับต้นทุนที่สูงอยู่ ขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยดิ้นรนหาแหล่งเงินกู้ และมักใช้ช่องทางนอกงบดุล ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม นายเรย์มอนด์ หยิง นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ( ANZ Bank) ในฮ่องกง มองว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนี้ยังเล็กน้อย และไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ธนาคารพาณิชย์ละทิ้งลูกค้าเงินกู้ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ และมีความปลอดภัยกว่า เนื่องจากมีรัฐบาลค้ำประกันได้