เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เกิดคดีอัปยศกระบวนการยุติธรรมของจีน เมื่อหนุ่มผู้บริสุทธิ์ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตในคดีฆาตกรรมเมื่อปี 2539 กระทั่งฆาตกรตัวจริงยอมรับสารภาพในอีก 9 ปีต่อมา
ศาลในเขตปกครองมองโกเลียในแจ้งว่า จะเปิดการพิจารณาคดีนี้ใหม่ในเดือนหน้า หลังจากพ่อแม่ผู้ตายยื่นอุทธรณ์ เพื่อล้างมลทินให้ลูกชายคือนาย ฮักจิลตู (Hugjiltu) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า นายคอยซิเลตู (Qoysiletu) ซึ่งถูกประหารชีวิตด้วยวัยเพียง 18 ปี ในคดี ที่เขาไม่ได้ก่อ
ข่าวศาลรื้อฟื้นคดีดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของประชาชนทั้งประเทศ และเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังเดินหน้าปฏิรูประบบกฎหมายตามนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
นาย ฮักจิลตู ถูกลูกกระสุน 2 นัดเจาะศีรษะ หลังจากศาลได้พิพากษาประหารชีวิตเขา โทษฐานข่มขืนและฆ่าหญิงผู้หนึ่งในเมืองฮูเหอเฮ่าเท่อในปี 2539 แม้หนุ่มเคราะห์ร้ายยืนยันความบริสุทธิ์ และยังได้ระบุในแถลงการที่มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาด้วยว่า เขาถูกตำรวจซ้อม เพื่อให้ยอมรับสารภาพ
ต่อมาในปี 2548 ชายนามว่า จ้าว จื่อหง ได้ยอมรับสารภาพกับตำรวจว่า เป็นผู้ฆ่าหญิงผู้นั้น
นักวิชาการด้านกฎหมายชี้ว่า การพิพากษาคดีนี้ขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากขาดหลักฐานโดยตรง ไม่มีการตรวจดีเอ็นเอ และวิธีการสอบสวนมีข้อกังขา
เหตุการณ์ที่ทำให้นายฮักจิลตูต้องพบจุดจบเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2539 นาย ฮักจิลตูและเพื่อนร่วมงานได้แจ้งความกับตำรวจว่า พวกตนพบหญิงคนหนึ่งนอนตายในห้องสุขาสาธารณะใกล้กับหอพักของโรงงานผลิตบุหรี่ฮูเหอเฮ่าเท่อ ที่ทั้งสองเป็นลูกจ้าง และอาศัยในหอพักแห่งนี้ แต่ตำรวจกลับจับนายฮักจิลตู และเขาถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือนมิ.ย. ปีเดียวกัน
“ ตำรวจใช้เวลาเพียง 62 วันปิดคดี” ทนายความของครอบครัวแพะรับบาปกล่าว
เขายังเปิดเผยด้วยว่า ตำรวจไม่มีการตรวจสอบหลักฐานชิ้นสำคัญคือเชื้ออสุจิในร่างของเหยื่อ อีกทั้งในเวลานั้นอัยการมองโกเลียยังถูกกดดันอย่างหนักให้เร่งปิดคดีภายใต้นโยบายกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ
นางซัง หลี่อวิ๋น แม่ของนาย ฮักจิลตูกล่าวว่า นางถูกสังคมประณามว่า เป็นแม่ของฆาตกรข่มขืนอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ต้องต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรม และถ้าลูกของนางยังไม่ตาย ขณะนี้ก็มีอายุได้ 36 ปีแล้ว