xs
xsm
sm
md
lg

เด็กจีนแห่ไปเรียนต่อสหรัฐฯ กินสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของนักศึกษาต่างชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจาก china.cnr.cn
เซี่ยงไฮ้ เดลี่ – เปิดสถิติพบจำนวนนักศึกษาจีนที่ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16.5 เพิ่มเป็น 274,439 คน หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดที่ไปเรียนต่อในสหรัฐฯ บ.นายหน้าจีนชี้นอกจากมีมหาวิทยาลัยดีๆ เยอะแล้ว โอกาสหางานทำงานยังมากกว่าในประเทศอื่นด้วย

รายงานล่าสุดของสถาบันเพื่อการศึกษานานาชาติ ในมหานครนิวยอร์กระบุจำนวนนักศึกษาจีนที่ไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 16.5 เมื่อเทียบกับปีการศึกษาที่แล้วเป็นกว่า 274,439 คน ขณะที่จำนวนนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 เป็น 886,052 คน โดยในจำนวนนี้นักศึกษาจากจีนถือว่ามีเพิ่มจำนวนขึ้นมากที่สุด

ปัจจุบันนักศึกษาจากจีนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31 ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ โดยนักศึกษาจากอินเดียตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ร้อยละ 12 และ เกาหลีใต้อันดับ 3 ร้อยละ 7.7

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับปี 2543 (ค.ศ.2000) จำนวนนักศึกษาจีนในสหรัฐฯ ถือว่าเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 5 เท่า โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ถือเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาจีนอย่างมาก

แดเนียล โชว นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมนานาชาติเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ ส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ หลายแห่งแล้ว และเปิดเผยด้วยว่าเขาเตรียมตัวที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศมาหลายปีแล้ว

“ผมศึกษาเกี่ยวกับโรงเรียนอเมริกันตั้งแต่เริ่มเรียนชั้นมัธยมปลาย และผมไม่เคยคิดจะไปเรียนต่อที่ประเทศอื่นเลย อเมริกามีมหาวิทยาลัยดีๆ เยอะและเปิดโอกาสในการทำงานให้กับนักศึกษาที่เรียนจบมากกว่าประเทศอื่นๆ” โจวระบุ

นอกจากจำนวนนักศึกษาจีนที่ไปเรียนต่อสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น แล้ว บริษัทและนายหน้าที่เสนอความช่วยเหลือให้กับนักเรียนจีนในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้น้ดวยเช่นกัน อย่างเช่น บริษัทที่ปรึกษาการเรียนต่อ ไชน่าอเมริกา ซึ่งอยู่ในเซี่ยงไฮ้ อ้างว่าในปีการศึกษาที่ผ่านมาทางบริษัทสามารถช่วยให้นักศึกษาจีนสามารถไปเรียนต่อสหรัฐฯ ได้กว่า 900 ราย ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าปีการศึกษาก่อนหน้าประมาณ 100 ราย

“ลูกค้าของเราเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ทั้งในส่วนของนักเรียนที่มีผลการศึกษาดี และจากเมืองเล็กๆ ลงไปในประเทศจีน” หลี่ เหยียน ผู้อำนวยการอาวุโสของ บ.ไชน่าอเมริกากล่าว “การไปเรียนที่สหรัฐฯ นักเรียนจีนมีทางเลือกมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากสหรัฐฯ มีโรงเรียนชั้นนำและมีคุณภาพดีจำนวนมาก”

อย่างไรก็ตามการแข่งขันของนักศึกษาจากทั่วโลกในการเข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ก็เข้มข้นมากเช่นกัน ทำให้บริษัทของเธอโดยปกติ มักจะแนะนำให้นักศึกษาจีนส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ 8 แห่ง ในระดับที่แตกต่างกันไป เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอย่างน้อยจะมีที่ใดที่หนึ่งรับเข้าเรียน

ทั้งนี้แม้ว่านักศึกษาต่างชาติจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 4 ของนักศึกษาทั้งหมดในสหรัฐฯ แต่การใช้จ่ายของพวกเขาก็มีผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่น้อย โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า ในปีที่แล้ว นักศึกษาต่างชาติใช้จ่ายเงินกว่า 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้รายงานยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ราวร้อยละ 74 ของนักศึกษาต่างชาติที่ไปเรียนต่อในสหรัฐฯ นั้นใช้เงินทุนส่วนใหญ่ในการศึกษาจากนอกสหรัฐฯ โดยแหล่งเงินมาจากหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็นเงินส่วนตัว ครอบครัว รัฐบาล และมหาวิทยาลัย

รายงานชี้ให้เห็นด้วยว่า นักศึกษาต่างชาติมีส่วนช่วยให้การวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคนิคต่างๆ ก้าวหน้าไป ทั้งยังช่วยเพิ่มมุมองและความหลากหลายให้กับห้องเรียนของสหรัฐฯ ด้วย โดยในส่วนนี้เองที่ช่วยทำให้นักศึกษาอเมริกันสามารถเตรียมตัวสำหรับการทำงานในต่างชาติและช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจในระยะยาว ซึ่งจะก่อให้เกิดผลรับทางเศรษฐกิจ

ปีที่แล้วมหาวิทยาลัยนิวยอร์กถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่รับเอานักศึกษาต่างชาติไว้มากที่สุดถึง 11,164 คน โดยตัวเลขดังกล่าวผลักให้มหาวิทยาลัยนิวยอร์กกระโดดจากอันดับที่ 4 ขึ้นมาอยู่อยู่หัวแถวของมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ ที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด ถีบให้มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียซึ่งครองแชมป์มา 12 ปีติดต้องหล่นไปอยู่อันดับที่สอง

ขณะเดียวกันจำนวนนักเรียนอเมริกัน ที่ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศก็เพิ่มจำนวนขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดยร้อยละ 12.5 หรือคิดเป็น 289,408 คน เดินทางไปเรียนต่อในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นจุดหมายอันดับ 1 ของนักศึกษาอเมริกัน ส่วนประเทศจีนนั้นตั้งแต่ปีการศึกษา 2549-2550 อยู่ในอันดับ 5 ของจุดหมายที่นักศึกษาสหรัฐฯ นิยมไปเรียนต่อที่สุด โดยปีที่ผ่านมามีนักศึกษาอเมริกันไปเรียนต่อ 14,413 คน หรือราวร้อยละ 5


กำลังโหลดความคิดเห็น