เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ รายงาน (7 ต.ค.) ว่ารายได้ที่คาสิโนมาเก๊าในเดือนกันยายนลดลงร้อยละ 11.7 เทียบกับปีที่แล้ว ตกมากที่สุดในรอบห้าปี และมีแนวโน้มลดลงในเดือนนี้ ปัจจัยสำคัญจากมาตรการห้ามสูบบุหรี่บนชั้นคาสิโนและสถานการณ์ประท้วงอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล ส่งผลลดจำนวนนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่
รายงานข่าวกล่าวว่า รายได้จากคาสิโนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง อย่างไรก็ตาม ทิศทางของราคาหุ้นของเหล่ากิจการเสี่ยงโชคมาเก๊ากลับขยับสูงขึ้น โดย หุ้นของแซนด์ ไชน่า ขยับปิดที่ ร้อยละ 6.98, กาแล็คซี่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.06, เอสเจเอ็มโฮลดิ้งร้อยละ 5.12 เอ็มจีเอ็ม ไชน่า ร้อยละ 4.93, วินน์ มาเก๊า ร้อยละ 4.44 และเมลโคคราวน์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.63
สำนักงานตรวจสอบกิจการพนันมาเก๊า ระบุว่ารายได้จากการเล่นการพนันของมาเก๊า ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.556 หมื่นล้านปาตากาส์ (ราว 1.02 แสนล้านบาท ) เทียบกับ 28.96 พันล้านปาตากาส์(ราว 1.15 แสนล้านบาท) ในเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ฟรานซิส แทม ปักเยือน หัวหน้าคณะเศรษฐกิจและการคลังของรัฐบาลมาเก๊า กล่าวเมื่อวันอังคารที่แล้ว คาดว่ารายได้จากกิจการพนันในเดือนกันยายนลดลงร้อยละ 12 ถึง 13 ต่อปี เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โกเวิร์นเซ่น กล่าวว่าแนวโน้มของรายได้ยังคงจะลดลงต่อไปในเดือนตุลาคม อันเป็นเดือนที่รัฐบาลท้องถิ่น ออกมาตรการบังคับใช้กฎห้ามสูบบุหรี่บนชั้นคาสิโน และการประท้วงอ็อกคิวพายฯ ในฮ่องกง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ก่อนวันหยุดยาววันชาติจีน ลดจำนวนนักท่องเที่ยวแผ่นดินใหญ่ ที่มักจะหลั่งไหลมาเที่ยวฮ่องกงและมาเก๊าในช่วงวันหยุดนี้