รอยเตอร์ส—สำนักข่าวซินหวารายงานเมื่อวานนี้(24 ส.ค.) จีนกำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ โดยมีแผนนำออกมาใช้ในเดือนต.ค.นี้ เพื่อชิงตลาดคืนจากคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์ คอร์ป, แอปเปิล อินค์, และกูเกิล อินค์ ที่ยึดครองตลาดอยู่ขณะนี้
สืบเนื่องจากในปัจจุบันจีนและสหรัฐฯมักเผชิญหน้ากันในสนามเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ จีนจึงหันมาสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านนี้ในท้องถิ่นอย่างเต็มสูบ พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของตัวเองเข้ามายึดครองตลาดแทนที่ระบบปฏิบัติการวินโดว์สของไมโครซอฟท์ และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สำหรับโทรทศัพท์มือถือ
โดยเฟสแรกจะผลักดันระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ตั้งโต๊ะ จากนั้นก็พัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโพน และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ซินหวาอ้างแหล่งข่าว นาย หนี กวงหนัน หัวหน้าแนวร่วมการพัฒนาระบบ OS
“เรากำลังออกระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ตั้งโต๊ะในเดือนต.ค.นี้ เพื่อรองรับแอฟสโตร์ต่างๆ จีนมี OS ที่พัฒนาขึ้นเองแล้ว แต่เทคโนโลยีจีนยังห่างชั้นจากของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมาก” หนี กล่าว พร้อมกับแสดงความหวังว่าซอฟท์แวร์ที่ผลิตในจีน จะสามารถนำมาใช้แทนที่ระบบปฏิบัติการอุปกรณ์ตั้งโต๊ะนำเข้าภายใน 1 ถึง 2 ปี และจะพัฒนาระบบปกิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือภายใน 3-5 ปี
ในเดือนพ.ค. จีนห้ามใช้วินโดว์ส 8 ระบบปฏิบัติการล่าสุดของไมโครซอฟ์ท ในหน่วยงานรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจเทคโนโลยีสหรัฐฯมาก นอกจากนี้จีนยังดำเนินการไต่สวนบริษัทไมโครซอฟ์ทในข้อกล่าวหาละเมิดกฎหมายต้านการผูกขาด
ในเดือนมี.ค.ปีที่แล้วจีนได้ออกมาชี้ว่ากูเกิลใช้ระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์เข้ายึดครองตลาดสมาร์ทโพนของจีนมากเกินไป และยังเลือกปฏิบัติต่อบริษัทท้องถิ่นบางกลุ่ม
ทั้งนี้จีนและสหรัฐฯต่างก็หวาดระแวงกันเรื่องการแฮ็คข้อมูล ในปีที่แล้วความขัดแย้งดังกล่าวร้อนฉ่าเมื่อนาย เอ็ดวาร์ด สโนว์เดนออกมาแฉว่าหน่วยข่าวกรองมะกันได้ซ่อนอุปกรณ์สอดแนมไว้ในฮาร์ดแวร์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ขณะที่ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐฯก็ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารจีน ในข้อกล่าวหาโจรกรรมข้อมูลทางอุตสาหกรรม
นาย หนี กล่าวว่าการห้าม วินโดว์ส 8 ได้เปิดโอกาสทองแก่อุตสาหกรรมในภาคนี้ของจีน ผลักดันระบบปฏิบัติการของตัวเอง แต่ก็ยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาและการลงทุนมหาศาล.