สาวพิการจีนสะอื้นเอนทรานซ์คะแนนสูง แต่โดนกีดกันไม่ให้เรียนต่อ

เอเจนซี/โซหู – นักเรียนสาวพิการร้องเรียนสื่อจีน สอบเอ็นทรานซ์คะแนนผ่าน แต่โดนปฏิเสธไม่ให้เข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยในฝูเจี้ยน ระบุไม่ผ่านการตรวจร่างกาย ด้านสถาบันการศึกษาอ้างไม่ได้กีดกัน แต่ไม่ผ่านการตรวจร่างกายจริงๆ จึงรับเข้าเรียนไม่ได้

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา สื่อมวลชนจีนตีข่าวกรณี หลิว หว่านหลิง นักเรียนสาวพิการที่อาศัยอยู่ในเมืองจางโจว มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ซึ่งเข้าร้องเรียนกรณีที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้คะแนนสูงถึง 549 คะแนน แต่กลับถูกปฏิเสธรับเข้าศึกษาต่อจากวิทยาลัยเจียงเซี่ย ในมณฑลฝูเจี้ยน โดยระบุว่า เธอไม่ผ่านการตรวจร่างกาย

หลิว หว่านหลิง ซึ่งมีอาการพิการที่ขา ไม่สามารถเดินเหินได้ตามปกติ ทว่าส่วนอื่นๆ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป เปิดเผยกับสื่อจีนว่าตอนที่สอบเสร็จเธอเคยได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยให้เธอปรับคณะที่เขาเรียนจากที่เธอเลือกไว้แต่แรก เป็นคณะอื่นที่มีคนเลือกน้อยกว่าแทน ซึ่งเธอก็ตอบตกลงไปแล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าศึกษาต่อจากวิทยาลัยเจียงเซี่ยอีก ซึ่งสร้างความผิดหวังและงงงวยให้กับตัวเธอและครอบครัวเป็นอย่างมาก

สำหรับสภาพการณ์ และสถิติคะแนนของนักเรียนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยในมณฑลฝูเจี้ยนในปี 2557 นั้นมีดังนี้คือ ในการรับรอบแรก เปิดรับนักเรียนสายศิลป์ที่สามารถสอบได้คะแนนมากกว่า 561 คะแนน และนักเรียนสายวิทย์ที่ได้คะแนนมากกว่า 506 คะแนน ส่วนการรับรอบที่สอง เปิดรับนักเรียนสายศิลป์ที่สอบได้คะแนนมากกว่า 482 คะแนน และนักเรียนสายวิทย์ที่สอบได้มากกว่า 408 คะแนน โดยกรณีของหลิว หว่านหลิงที่เป็นนักเรียนสายศิลป์และสอบได้ 549 คะแนน เข้าเกณฑ์ในการรับนักศึกษารอบที่สอง

อย่างไรก็ตามวานนี้ (4 ส.ค.) วิทยาลัยเจียงเซี่ยก็ได้ออกแถลงการณ์เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยชี้แจงกรณีของ หลิว หว่านหลิง โดยระบุว่า สำหรับการตรวจร่างกายเพื่อรับเข้าศึกษาต่อนั้นมีผลอยู่ 3 กรณี คือ หนึ่ง ผ่านการตรวจร่างกาย สอง สภาพร่างกายมีข้อจำกัดไม่เหมาะแก่การเรียนสาขาวิชาเฉพาะทาง และ สาม ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย โดยกรณีของหลิว หว่านหลิงนั้นวิทยาลัยพบว่า เธอเข้าข่ายในข้อที่สาม คือ ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย แต่เพื่อเคารพสิทธิส่วนบุคคลจึงไม่สามารถเปิดเผยถึงผลการตรวจร่างกายโดยละเอียดได้ โดยวิทยาลัยได้อ้างอิงจากระเบียบและข้อเสนอแนะของกระทรวงศึกษา กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมคนพิการของจีนในการปฏิเสธการรับเธอเข้าศึกษาต่อ ทั้งยังมีการพิจารณาอย่างละเอียด และเสนอให้สำนักการศึกษามณฑลฝูเจี้ยนพิจารณาอีกขั้นและเห็นชอบแล้ว

วิทยาลัยเจียงเซี่ยยังชี้แจงต่อด้วยว่า ทางวิทยาลัยมิได้มีความประสงค์ที่จะกีดกันคนพิการมิให้เข้าศึกษาต่อ เนื่องจากปัจจุบันทางวิทยาลัยมีนักศึกษาพิการเข้าศึกษาต่ออยู่แล้วจำนวน 11 คน ขณะที่ในปีการศึกษานี้ก็มีนักศึกษาพิการจบการศึกษาจำนวน 3 คน