เซาท์ไชน่ามอร์นิง โพสต์ รายงาน (4 ส.ค.) ว่า โรงงานขัดเงาโลหะ ในเมืองคุนซานซึ่งระเบิดรุนแรงเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (2 ส.ค.) จนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 75 คน มีสภาพการทำงานที่เสี่ยงอันตราย ภายใต้สภาพฝุ่นไวไฟซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอุบัติเหตุ แม้จะได้รับคำเตือนมาหลายครั้งแต่ผู้บริหารโรงงานคุนซาน จ้งหรง เมทัล ซึ่งเป็นของชาวไต้หวันนี้ กลับละเลยที่จะป้องกันมาตลอด
เจ้าหน้าที่สำนักกำกับดูแลด้านความปลอดภัยโรงงาน ได้แถลงว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา โรงงานแห่งนี้ได้รับคำเตือนให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน แต่เจ้าของโรงงานฯ กลับละเลยมาตลอด ขณะที่เหตุระเบิดเมื่อเช้าวันเสาร์นั้น มีสาเหตุมาจากประกายไฟจากฝุ่นไวไฟที่ใช้ในการขัดเงาฝาครอบล้อแม็กซ์รถยนต์
รายงานข่าวกล่าวว่า นอกจากผู้เสียชีวิต 75 คนแล้ว ยังมีคนงานได้รับบาดเจ็บไฟไหม้อีก 186 คน โดยทั้งหมดถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลต่างๆ ในเซี่ยงไฮ้ ซูโจว หนานถง และอู่ซี ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อระบุบุคคลผู้เสียชีวิตก่อนส่งมอบกับครอบครัวฯ
อู่ หมิง คนงานวัย 45 ปีของโรงงานฯ กล่าวว่า เขาทำงานในโรงงานมา 7 ปีแล้ว โดยทำอยู่ในส่วนงานพ่นทราย ซึ่งอยู่ใกล้กับส่วนงานขัดเงาที่ระเบิดฯ อู่กล่าวว่า ส่วนงานขัดเงาฯ นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่ามีสภาพแวดล้อมการทำงานที่แย่มาก เต็มไปด้วยฝุ่น และคนงานต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา แต่ก็ยังคงไม่ใช้มาตรการป้องกันที่ดีนัก ทว่าคนส่วนใหญ่ที่ยอมทำในส่วนงานนี้เพราะมีรายได้ค่าตอบแทนสูงกว่าส่วนงานอื่นๆ
คนงานส่วนใหญ่ในส่วนขัดเงาฯ นี้ มีอายุระหว่าง 35 - 45 ปี ซึ่งล้วนเป็นกำลังหลักของครอบครัวในการหารายได้ พวกเขาบอกกับอู่ว่า จำยอมทำงานในสภาพที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว
นายอู่ กล่าวอย่างอาลัยว่า เขาได้ช่วยแบกศพเพื่อนคนงานหลายคนออกจากโรงงาน ในจำนวนนั้น บางคนก็เพิ่งจะทานข้าวเช้ากับเขาก่อนทำงานในวันนั้น
สุภาพสตรี วัย 50 ปี อดีตคนงานของโรงงานฯ กล่าวว่า เพื่อนบ้านมักจะหัวเราะเธอด้วยสภาพมอมแมมหลังเสร็จงานที่โรงงานนั้น ไม่ต่างคนทำงานในเหมืองถ่านหิน
"เราต่างรู้ว่าฝุ่นในโรงงานทั้งเสี่ยงต่อสุขภาพ และชีวิตเพราะมันอาจจะก่อให้เกิดระเบิดขึ้นวันใดวันหนึ่ง แต่ก็ไม่มีทางเลือก เราจำเป็นต้องมีเงิน"
อู่ กล่าวว่า ค่าจ้างของคนงานต่อกะการทำงานอย่างน้อยวันละ 12 ชั่วโมงนี้ มีรายได้ประมาณ 5,000 หยวน ต่อเดือน (ราว 25,000 บาท)
ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้บริหารของโรงงาน 5 คนแล้ว ในความผิดตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานฯ ขณะที่ทางด้านสำนักงานใหญ่ในไต้หวัน ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างใด ในอีกด้านหนึ่งตลอดวันเสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนหนานถง ต่างออกมาบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือคนงานโรงงานฯ หลังขาดแคลนโลหิตช่วยผู้บาดเจ็บ