เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -บรรดาแม่ทัพนายกองของจีนยืนยันจงรักภักดีต่อประธานาธิบดี ภายหลังมีการประกาศสอบสวนคดีทุจริตอื้อฉาวของอดีตผู้นำฝ่ายความมั่นคง
ในบทความ ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์พีแอลเอ เดลี่ ( PLA Daily) ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ก่อนหน้าครบรอบปีแห่งการสถาปนากองทัพ ได้ระบุว่า กองทัพมีความจงรักภักดีต่อประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และพรรคคอมมิวนิสต์ โดยทหารทุกนายจะสนับสนุนการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคและท่านผู้นำอย่างเต็มที่
บทความชิ้นนี้เป็นสิ่งยืนยันว่า กองทัพแดนมังกรอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมของประธานาธิบดีสีทั้งหมด โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า การประกาศเริ่มการสอบสวนความผิดทางวินัยจากคดีทุจริตของนายโจว ย่งคัง อดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร (29 ก.ค.) รวมทั้งการสอบสวนคดีทุจริตของนายสีว์ ไฉโฮ่ว อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง อันทรงอำนาจ ย่อมแสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีสีได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งภายในพรรคคอมมิวนิสต์และกองทัพ จึงสามารถกล้าท้าชนกับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลทั้งสองคนนี้ได้
ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหม และบริษัทปิโตรเลี่ยมแห่งชาติของจีนก็ได้ประสานเสียงสนับสนุนการสอบสวนนายโจวกันอย่างพร้อมเพรียง โดยนายโจวเคยมีตำแหน่งอยู่ในรัฐวิสาหกิจน้ำมันแห่งนี้
ด้านสำนักข่าวซินหวาของทางการยังรายงานข่าวประธานาธิบดีสี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารในมณฑลฝูเจี้ยน หลังจากการประกาศสอบสวนนายโจวเพียง 1 วันอีกด้วย
นายหนี เล่อสยง นักวิเคราะห์ด้านการทหาร ซึ่งอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า เมื่อมีการเริ่มการปราบปรามการทุจริตตามนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งประธานาธิบดีสีดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้น มีความวิตกกันว่า เอกภาพของพรรคอาจสั่นคลอน หากการสอบสวนยืดเยื้อต่อไป แต่สำหรับกรณีของนายโจวนั้น ทุกสิ่งทุกอยู่ในความควบคุมและเป็นไปตามแผนการของประธานาธิบดีสี โดยหากแผนการไม่ดำเนินไปอย่างราบรื่น ประธานาธิบดีสีก็คงไม่เดินทางเยือนชาติในละตินอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้วเป็นแน่
ด้านนักวิเคราะห์คนอื่น ๆ มองว่า ภูมิหลังของประธานาธิบดีสี ซึ่งมาจากตระกูลสูงส่ง กล่าวคือนายสี จงซวิน บิดาของเขาเป็นผู้อาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่มีส่วนร่วมในการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492 ได้มีส่วนช่วยทำให้การรณรงค์ปราบปรามการทุจริตของประธานาธิบดีสีไม่ถูกต่อต้าน
นอกจากนั้น เขายังได้แรงหนุนจากกระแสความไม่พอใจการทุจริตคอร์รัปชั่นจากภาคประชาชนอีกด้วย โดยประธานาธิบดีสีเป็นผู้นำ ที่รับรู้ความรู้สึกต่อต้านการทุจริตของประชาชนได้ไวมากทีเดียว