เอเจนซี - วงการวารสารจับตา “ฟอร์บส์” ประกาศขายหุ้นมูลค่าร่วม 15,000 ล้าน ให้กลุ่มนักลงทุนในฮ่องกง
สำนักข่าวต่างประเทศอ้างคำแถลงของบริษัท ฟอร์บส์ มีเดีย (Forbes Media) ผู้ผลิตนิตยสารธุรกิจการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ระบุ (18 ก.ค.) ว่า บริษัทฯ กำลังดำเนินการจัดจำหน่ายหุ้นในความควบคุมจำนวนหนึ่งให้กับ อินทิเกรต เวล มีเดีย อินเวสต์เมนท์ส (Integrated Whale Media Investments) กลุ่มนักลงทุนซึ่งมีฐานอยู่ในฮ่องกง
โดยกลุ่มนักลงทุน เวล มีเดีย นำโดย อินทิเกรต แอสเซ็ต แมเนจเมนท์ (Integrated Asset Management) บรรษัทการลงทุนที่เน้นด้านเทคโนโลยี การเงิน และสื่อสารโทรคมนาคม และ Wayne Hsieh ผู้ร่วมก่อตั้ง Asustek Computer Inc ที่สร้างสรรค์คอมพิวเตอร์แบรนด์ดังอย่างเอซุส (Asus) ซึ่งปัจจุบันพำนักอยู่ในสิงคโปร์
ทางด้านตระกูลฟอร์บส์จะยังคงถือครอง “หุ้นความเป็นเจ้าของ” และมีส่วนร่วมในการบริหารงาน โดยฟอร์บส์ มีเดีย ยังเป็นผู้ควบคุมธุรกิจและตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา เพียงแต่จำนวนหุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายให้กับกลุ่มนักลงทุนรายใหม่เท่านั้น
สตีฟ ฟอร์บส์ หลานชายของผู้ก่อตั้งฟอร์บส์ มีเดีย จะยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และเป็นบรรณาธิการบริหารภายใต้แผนดำเนินงาน ส่วนไมค์ เพอร์ลิส ก็เป็นหัวหน้าผู้บริหารนำทีมดูแลบริษัทต่อไป
“นับเป็นหลักหมายสำคัญของบริษัทและครอบครัว เรารู้สึกพอใจกับหุ้นส่วนใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนวิสัยทัศน์ก้าวไกล พร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาและการเติบโตของบริษัทอันยอดเยี่ยมนี้” สตีฟ ฟอร์บส์ กล่าว
“หุ้นส่วนใหม่ให้ความเคารพคุณค่าและแบรนด์ของเรา ทั้งส่งเสริมภารกิจที่มีมายาวนานในการเอาชนะใจผู้ประกอบการและระบบทุนนิยมตลาดเสรี ผ่านวารสารธุรกิจที่มีคุณภาพและเป็นอิสระ โดยพวกเขายังยืนกรานให้ตระกูลฟอร์บส์และทีมบรรณาธิการมืออาชีพ ทำหน้าที่ในบริษัทต่อไป”
อย่างไรก็ดี ฟอร์บส์ มีเดีย ไม่ได้เปิดเผยวงเงินการซื้อขายหุ้นครั้งใหญ่คราวนี้ แต่สื่อดังอย่างนิวยอร์ค ไทม์ส เผยว่าอาจมีมูลค่าราว 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 14,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ ฟอร์บส์ มีเดีย ถือกำเนิดขึ้นในปี 2460 โดย บีซี ฟอร์บส์ (BC Forbes) ชาวสก็อตแลนด์ที่อพยพมายังสหรัฐฯ ก่อนจะเปลี่ยนผ่านมือมายัง มัลคอล์ม ฟอร์บส์ ทายาทรุ่นสอง และสตีฟ ฟอร์บส์ ทายาทรุ่นสามของตระกูล
นิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งเป็นวารสารด้านธุรกิจและการเงิน มีผู้อ่านกว่า 6 ล้านคนในอเมริกา และได้รับการตีพิมพ์ในอีก 21 ภาษา ทำให้มีจำนวนผู้อ่านอยู่ทั่วโลกสูงถึง 75 ล้านคน