เอเจนซี - เพราะชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ เผิง เชา วัย 19 ปี นักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายในเมืองพายจือฮวา มณฑลเสฉวน ผู้พิการไร้แขนจากอุบัติเหตุเมื่ออายุ 6 ขวบ ไม่ครั่นคร้ามต่อโชคชะตา ยืนหยัดสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย แข่งขันกับเด็กปกติเกือบ ‘สิบล้านคน’ ทั่วประเทศ

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผิง เชา ได้รับผลคะแนนการสอบเกาเข่า ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ผลคะแนน 538 แต้มที่เผิงได้รับคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ‘หากเขาจะมีมือไว้เขียนกระดาษคำตอบดังเช่นเด็กทั่วๆไป’
เผิง เชา ถูกหม้อแปลงแรงดันสูงช็อกเมื่ออายุ 6 ขวบ จึงต้องสูญเสียแขนสองข้างไป แต่เผิง เชาก็ไม่ยอมแพ้แก่ชะตากรรม ยังมองโลกในแง่ดี ต่อสู้อุปสรรคนานาอย่างที่คนปกติคาดคิดไม่ถึงจริงๆ เขาฝ่าฟันการฝึกฝนอย่างทรหดในการใช้เท้าสวมเสื้อผ้า เขียนหนังสือ ใช้อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ปัจจุบันสามารถทำกิจวัตรประจำวันเองได้
การสูญเสียแขนทั้งสองข้างก็ไม่ทำให้เขายอมแพ้กับโชคชะตา เผิงเข้าเรียนในโรงเรียนของคนปกติ เข้าเรียนติวอย่างหนักก่อนสอบ เพราะมีความฝันเหมือนเด็กจีนคนอื่นๆ ทั่วไป นั่นคือการผ่านการสอบ ‘เกาเข่า’ การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่ชี้ชะตาเด็กจีนค่อนประเทศ เพื่อเข้าไปเป็นปัญญาชนในมหาวิทยาลัยมีชื่อของรัฐ

538 คะแนน เมื่อรวมกับคะแนนช่วยอีก 5 คะแนน จากนโยบายท้องถิ่น จึงทำให้เด็กผู้พิการแต่เพียงร่างกายคนนี้ ผ่านอี เปิน เซี่ยน (yi ben xian) อันเป็นเกณฑ์มาตรฐานเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อได้ ด้วยคะแนนที่ผ่านเส้นไปเพียง 3 คะแนน


ก่อนที่เผิงจะได้รับผลสอบ พ่อของเขา นายเผิง ชางฟู่ ก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าลูกชายของเขา “เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลยเพราะผมกังวลว่าลูกจะได้กี่คะแนน” นายเผิง ผู้พ่อกล่าว อย่างไรก็ตาม เผิงผู้พ่อก็บอกลูกชายอย่าเครียด ทำใจให้สบาย
เผิงน้อย กล่าวกับผู้สื่อข่าวของซินหวาว่า ก่อนผลสอบจะออกมา เขายังคิดในแง่ดี แต่ก็เสียใจที่ไม่ได้ตอบข้อสอบทุกข้อ “มีเหลืออีกประมาณ 40 คะแนน ที่ผมทำไม่ทัน” เด็กชายกล่าว “ถ้ามีเวลาพอ ผมคงเข้าอี เปิน (yi ben) (มหาวิทยาลัยรัฐบาลอันดับต้นของประเทศ) ได้ไม่ยาก” ทั้งนี้ เผิงกังวลใจตลอดมาว่าเขาจะใช้เท้าเขียนคำตอบไม่ทัน...และมันก็เป็นจริง
สุดท้าย แม้เผิงจะไม่พอใจกับผลสอบโดยรวมของเขาเพราะทำไม่ทัน แต่เขาก็มองโลกในแง่ดีและยอมรับผลที่ได้ “ผมจะยอมรับผลที่ได้ ไม่ว่าผมจะได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือ มหาวิทยาลัยทั่วไป ผมยังหวังว่าผมจะได้เรียนวิศวกรรมโยธาที่ภาคเหนือ” เผิง กล่าว
...ความทุกข์ยากของใครสักคนหนึ่ง ไม่ได้มีไว้เพื่อรอคอยให้เราเวทนา หากแต่เป็นตัวอย่างที่คอยเตือนให้เรารู้ว่า “สำหรับผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ต่อให้ไม่มีมือ เพียงแค่เท้า...ก็เขียนชีวิตให้สวยงามได้”... ดังที่เผิง เชา หัวใจแกร่งคนนี้กำลังทำอยู่...



เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผิง เชา ได้รับผลคะแนนการสอบเกาเข่า ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ผลคะแนน 538 แต้มที่เผิงได้รับคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ‘หากเขาจะมีมือไว้เขียนกระดาษคำตอบดังเช่นเด็กทั่วๆไป’
เผิง เชา ถูกหม้อแปลงแรงดันสูงช็อกเมื่ออายุ 6 ขวบ จึงต้องสูญเสียแขนสองข้างไป แต่เผิง เชาก็ไม่ยอมแพ้แก่ชะตากรรม ยังมองโลกในแง่ดี ต่อสู้อุปสรรคนานาอย่างที่คนปกติคาดคิดไม่ถึงจริงๆ เขาฝ่าฟันการฝึกฝนอย่างทรหดในการใช้เท้าสวมเสื้อผ้า เขียนหนังสือ ใช้อินเทอร์เน็ต ฯลฯ ปัจจุบันสามารถทำกิจวัตรประจำวันเองได้
การสูญเสียแขนทั้งสองข้างก็ไม่ทำให้เขายอมแพ้กับโชคชะตา เผิงเข้าเรียนในโรงเรียนของคนปกติ เข้าเรียนติวอย่างหนักก่อนสอบ เพราะมีความฝันเหมือนเด็กจีนคนอื่นๆ ทั่วไป นั่นคือการผ่านการสอบ ‘เกาเข่า’ การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่ชี้ชะตาเด็กจีนค่อนประเทศ เพื่อเข้าไปเป็นปัญญาชนในมหาวิทยาลัยมีชื่อของรัฐ
538 คะแนน เมื่อรวมกับคะแนนช่วยอีก 5 คะแนน จากนโยบายท้องถิ่น จึงทำให้เด็กผู้พิการแต่เพียงร่างกายคนนี้ ผ่านอี เปิน เซี่ยน (yi ben xian) อันเป็นเกณฑ์มาตรฐานเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อได้ ด้วยคะแนนที่ผ่านเส้นไปเพียง 3 คะแนน
ก่อนที่เผิงจะได้รับผลสอบ พ่อของเขา นายเผิง ชางฟู่ ก็ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าลูกชายของเขา “เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลยเพราะผมกังวลว่าลูกจะได้กี่คะแนน” นายเผิง ผู้พ่อกล่าว อย่างไรก็ตาม เผิงผู้พ่อก็บอกลูกชายอย่าเครียด ทำใจให้สบาย
เผิงน้อย กล่าวกับผู้สื่อข่าวของซินหวาว่า ก่อนผลสอบจะออกมา เขายังคิดในแง่ดี แต่ก็เสียใจที่ไม่ได้ตอบข้อสอบทุกข้อ “มีเหลืออีกประมาณ 40 คะแนน ที่ผมทำไม่ทัน” เด็กชายกล่าว “ถ้ามีเวลาพอ ผมคงเข้าอี เปิน (yi ben) (มหาวิทยาลัยรัฐบาลอันดับต้นของประเทศ) ได้ไม่ยาก” ทั้งนี้ เผิงกังวลใจตลอดมาว่าเขาจะใช้เท้าเขียนคำตอบไม่ทัน...และมันก็เป็นจริง
สุดท้าย แม้เผิงจะไม่พอใจกับผลสอบโดยรวมของเขาเพราะทำไม่ทัน แต่เขาก็มองโลกในแง่ดีและยอมรับผลที่ได้ “ผมจะยอมรับผลที่ได้ ไม่ว่าผมจะได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือ มหาวิทยาลัยทั่วไป ผมยังหวังว่าผมจะได้เรียนวิศวกรรมโยธาที่ภาคเหนือ” เผิง กล่าว
...ความทุกข์ยากของใครสักคนหนึ่ง ไม่ได้มีไว้เพื่อรอคอยให้เราเวทนา หากแต่เป็นตัวอย่างที่คอยเตือนให้เรารู้ว่า “สำหรับผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ต่อให้ไม่มีมือ เพียงแค่เท้า...ก็เขียนชีวิตให้สวยงามได้”... ดังที่เผิง เชา หัวใจแกร่งคนนี้กำลังทำอยู่...