เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - หลานปู่เติ้ง เสี่ยวผิงอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งแดนมังกรได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ตำแหน่งเล็ก ๆ หลังจากจบการศึกษาจากเมืองนอก และกลับมาทำงานสัมผัสชีวิตชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า นายเติ้ง โจวตี้ หนุ่ม วัย 28 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของนาย เติ้ง จื้อฟัง ทายาทคนเล็กของท่านเติ้ง เสี่ยวผิง และรองหัวหน้าคณะผู้บริหารท้องถิ่นอำเภอผิงกั่ว เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงก่วงซี (กวางสี) ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเทศบาลตำบลซินอั้น ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของอำเภอผิงกั่ว
อำเภอแห่งนี้มีประชากรกว่า 5 แสนคน ตั้งอยู่ห่างจากหนันหนิงเมืองเอกของเขตปกครองตนเองแห่งนี้ โดยขับรถ 2 ชม. ก็ถึง
ข่าวการแต่งตั้งครั้งนี้รู้กันไปทั่ว เมื่อเหอหนัน บิสซิเนส เฮรัลด์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจในมณฑลเหอหนัน นำข่าวเมื่อครั้งเขาเดินทางไปรับตำแหน่งผู้ใหญ่หมู่บ้าน ที่ยากจนแห่งหนึ่ง ซึ่งเหอหนันบิสซิเนสเคยเสนอเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา เผยแพร่ซ้ำเมื่อวันอังคาร ( 24 มิ.ย.)
ครั้งนั้นเหอหนันบิสซิเนสรายงานว่า นายเติ้ง โจวตี้ ได้รับแต่งตั้งจากนายเผิง ชิงหวา หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์สาขากวางสี ให้ทำงานในเทศบาลตำบลซินอั้นเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนายเผิงไปตรวจงานในอำเภอผิงกั่วได้ไม่นาน แต่หนุ่มเติ้งกลับทำเรื่องขออาสาไปทำงานในตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน อันต่ำต้อยด้วยความสมัครใจแทน
เติ้งผู้หลานเล่าว่า เขาทำงานในฐานะผู้ใหญ่หมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่นาน 3 วัน แต่ก็รับรู้ได้ถึงความยากลำบากในการทำงานและดำรงชีวิตในชนบท ซึ่งมีปัญหามากมาย ที่สามารถแก้ไขให้ชาวบ้านได้ หากเจ้าหน้าที่ของรัฐรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ในเมืองจีนนั้นมองกันว่า ลูกหลานของอดีตผู้นำประเทศเป็นพวกลูกท่านหลานเธอ ท่านอ๋องน้อย หรือคุณชาย โดยการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับต่ำในท้องถิ่นชนบทได้กลายเป็นประเพณี ที่ต้องปฏิบัติสำหรับบุคคลเหล่านี้ ก่อนจะได้ก้าวสู่ตำแหน่ง ที่สูงขึ้นไป
สำนักข่าวบลูเบิร์กรายงานว่า นายเติ้ง โจวตี้ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยดุ๊กในสหรัฐฯเมื่อปี 2551 จากนั้น เข้าทำงานในบริษัทกฎหมายไวต์แอนด์เคส (White & Case)
คุณชายเติ้ง ซึ่งไม่ชอบทำตัวเป็นข่าว แต่ก็ตกเป็นข่าวพาดหัวเมื่อเดือนพ.ค. ปี 2556 เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าคณะผู้บริหารท้องถิ่นของอำเภอผิงกั่ว โดยดูแลงานขับเคลื่อนการพัฒนาและปฏิรูปเศรษฐกิจ เกษตรกรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
ทั้งนี้ อำเภอผิงกั่วอยู่ภายใต้การบริหารของเมืองไป๋เซ่อ ซึ่งคุณปู่ของเขาเคยร่วมก่อตั้งขบวนการคอมมิวนิสต์ต่อต้านรัฐบาลแห่งชาติเมื่อปี 2472
เติ้ง โจวตี้เป็นผู้หนึ่งในบรรดาทายาทรุ่นที่ 3 และ 4 ของเหล่าผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เลือกทำงานภาครัฐ โดยเย่ จงเหา ซึ่งเป็นเหลนของจอมพลเย่ เจี้ยนอิง ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการประจำมนฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) ของสันนิบาตยุวชนคอมมิวนิสต์เมื่อปี 2556
ส่วนเหมา ซินอี่ว์ ซึ่งเป็นหลานชายของท่านประธานเหมา เจ๋อตง ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นนายพลตรี ซึ่งมีอายุน้อยที่สุดบนแดนมังกรเมื่อปี 2553
สำหรับเติ้ง เสี่ยวผิงนั้นถึงแก่อสัญกรรมในปี 2540 เขาได้รับการยกย่องเชิดชูว่า เป็นผู้นำในการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดประเทศจีนเมื่อ 30 กว่าปีก่อน อีกทั้งเป็นผู้เจรจากับอังกฤษเพื่อขอคืนเกาะฮ่องกง อย่างไรก็ตาม เขาถูกตำหนิติเตียนกรณีปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนอันเหมินอย่างโหดเหี้ยมในปี 2532