เอเจนซี - สำรวจประชากรย้ายถิ่น พบปีที่แล้ว เซี่ยงไฮ้มีคนย้ายเข้าอยู่ใหม่ 9.5 ล้านคน มากที่สุดในประเทศ รองลงมาคือปักกิ่ง 7.7 ล้านคน
สื่อจีนรายงาน (20 พ.ค.) อ้างรายงานประชากรย้ายถิ่นฐานเข้ามาในเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้ว พบว่ามีมากถึง 9.5 ล้านคน จัดเป็นเมืองที่มีผู้อพยพย้ายถิ่นเข้ามามากที่สุดในจีน โดยกรุงปักกิ่งเป็นอันดับสอง มีคนย้ายเข้าเมือง 7.7 ล้านคน
ชายชาวหูหนันคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเลือกที่จะเข้ามาทำงานในเซี่ยงไฮ้หลังจากสำเร็จการศึกษา เพราะคิดว่าเป็นศูนย์กลางแห่งโอกาส และมีคุณภาพชีวิตสูง ทั้งเป็นศูนย์กลางศึกษา มีการแพทย์ที่ก้าวหน้า ซึ่งบ้านเกิดของเขาไม่อาจเทียบได้ นอกจากเข้ามาทำงานแล้ว ยังคิดว่าจะย้ายมาสร้างครอบครัวสร้างอนาคตของตนที่นี่ด้วย
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวกล่าวว่า เซี่ยงไฮ้ปัจจุบันนี้ แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่กลับพบว่าผู้คนมีความกดดันในชีวิตสูงกว่าที่อื่นๆ ตลอดจนไม่มีความมั่นคงทั้งในส่วนบุคคล และทางสังคม โดยเมื่อเดือนที่แล้ว (เมษายน) เซี่ยงไฮ้เดลีรายงานว่า นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัว ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากไม่พิจารณาปัจจัยด้านจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มที่สูงขึ้นนี้เป็นผลมาจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ความเครียด การบริโภค และวิถีชีวิตที่ทำให้ต้องอยู่กับที่มากขึ้น
ในด้านปัญหาสังคมนั้น ซินหวารายงานว่า อาชญากรวัยรุ่นเริ่มมีมากขึ้นในเซี่ยงไฮ้ โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่นที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่
หลง ไห่ปั่ว นักวิจัยจากศูนย์วิจัยพัฒนาแห่งรัฐ กล่าวว่า ในการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ สมัยที่18 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รัฐบาลได้วางแผนควบคุมประชากรในเมืองขนาดใหญ่ และพัฒนาเมืองขนาดเล็ก - กลางขึ้นมาแทน โดยปัจจัยสำคัญที่สุดที่ประชาชนคาดหวังคือ สวัสดิการบริการสาธารณะและโอกาสในการทำมาหากินอย่างมีอนาคตที่ดีเทียบเท่าเมืองใหญ่ต่างๆ อันจะเป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำของเมืองและภูมิภาคฯ