เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- นักท่องเที่ยวจีน นับ 10,000 คน โวยผู้จัดงานแสดงหิ่งห้อย ริมทะเลสาบ มณฑลเจ้อเจียง เมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังรอเก้อนาน 2 ชั่วโมง แต่ขอเงินค่าตั๋วคืนไม่ได้
ความหวังที่จะเห็นแสงหิ่งห้อย 30,000 ตัว ระยิบระยับ สร้างความโรแมนติกในค่ำคืนสุดท้าย ก่อนหยุดยาววันแรงงาน กลับกลายเป็นความโกรธขึ้ง ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสลัว ว่างเปล่า บนรีสอร์ทเซียง เลค พลาซ่า
นักท่องเที่ยวจีน ราวๆ 10,000 คน และหลายคนมาจากมณฑลที่ห่างไกล ทั้งหมดเดินทางมายังรีสอร์ทดังกล่าว ในเมืองหังโจว เพื่อเข้าร่วมคืนเปิดงานแสดงหิ่งห้อย โดยงานดังกล่าวจำหน่ายบัตรค่าเข้าชมราคา 30 หยวน หรือราวๆ 150 บาท และบางคนต้องจ่ายมากถึง 180 หยวน หรือประมาณ 900 บาท สำหรับราคาตั๋วผี
ตามกำหนดการ งานดังกล่าวเริ่มขึ้นในเวลา หนึ่งทุ่มครึ่ง แต่ทว่าก็ไม่มีหิ่งห้อยแม้สักตัว ไชน่า นิวส์ เซอร์วิส รายงานวานนี้ (1 พ.ค.)
หลังอดทนรอนานกว่า 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจึงไปรวมตัวกันที่สำนักงานของทางรีสอร์ทผู้จัดงาน ในเขตเสี่ยวซัน เรียกร้องขอเงินค่าบัตรคืน และขอคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ทว่า ทางรีสอร์ทฯกลับไม่ดำเนินการใดๆ มวลมหานักท่องเที่ยวจึงเริ่มโกรธขึ้ง และทำลายข้าวของ ของทางรีสอร์ทฯ
ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ผู้คนเริ่มทำลายข้าวของของผู้จัดงาน มีการปาหน้าต่างกระจก เตะทำลายประตูล็อคเกอร์ที่จัดไว้บริการนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ตั้งข้อสงสัยไว้ในสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีน เวยปั๋ว (คล้ายทวิตเตอร์) ไว้ว่า เหตุใดทางผู้จัดงานจึงไม่สามารถคืนเงินให้แก่ผู้ชมได้ ทั้งๆ ที่หลายคนอุตส่าห์ดั้นด้นมาตั้งไกล เพียงเพื่อเข้าชมงานนี้
“เรายอมรับความจริงได้ ว่าไม่มีหิ่งห้อยเพราะอากาศหนาว แต่คนจัดงานก็ควรหยุดขายตั๋วและคืนเงินให้แก่พวกเรา” นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว แสดงความเห็น
หลายคนเห็นว่า การปล่อยหิ่งห้อยท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย จะทำให้พวกมันตายได้โดยง่าย เนื่องจากหิ่งห้อย เป็นสัตว์ที่เปราะบางกับ อุณหภูมิ เสียง และแสง ดังนั้น อุณหูมิภูมิที่ต่ำเกินไป ในเสี่ยวฉาน จึงอาจเป็นปัจจัยให้หิ่งห้อยหายไป เพราะการเปล่งแสงและการผสมพันธุ์ของหิ่งห้อย จำเป็นต้องอยู่ในสภาพอากาศอุ่น และคาดว่า ตลอดอีก 6 วันข้างหน้า อุณหภูมิในเขตดังกล่าว จะลดลงต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของหนังสือพิมพ์หัวสี ตูฉี ไควเป่า ของหางโจว เดลี เพรส กรุ๊ป ระบุว่า ผู้จัดงานตัดสินใจยกเลิกงานแสดงหิ่งห้อยดังกล่าวแล้ว และผู้ถือบัตรสามารถของเงินคืนได้ในอีก 10 วันถัดไป โดยก่อนหน้านี้ งานแสดงหิ่งห้อย มีโปรแกรมแสดงตลอดช่วงวันแรงงานที่หยุดยาว ตั้งแต่วันที่ 1 จนถึง 3 พ.ค.
ก่อนหน้านี้ เมื่อเขตเสี่ยวฉาน ออกประกาศเกี่ยวกับงานแสดงดังกล่าว เครือข่ายพลเมืองจีน ก็ออกมาทักท้วงแล้ว เนื่องจากเห็นว่า การขนย้ายหิ่งห้อยกว่า 30,000 ตัว จากฟาร์มเจียงซี ไปยังทะเลสาบดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 10 ชั่วโมง ถือว่า “โหดร้าย” เกินไปสำหรับสัตว์
หิ่งห้อยที่โตเต็มวัย มีวงจรชีวิตสั้นมาก อยู่ได้เพียงแค่ 3-5 วัน (เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่) ตามแต่พันธุ์ของพวกมัน ส่วนหิ่งห้อยป่ามีชีวิตอยู่ได้นานถึง 2 เดือน พวกมันมักเปล่งแสงในช่วงดึกค่ำคืนเดือนก.ค. ถึง ส.ค. โดยเฉพาะในสวน และตามชนบทที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.ค. (2556) ที่ผ่านมา มณฑลหูหนาน ปล่อยหิ่งห้อยกว่า 15,000 ตัว แต่เสียงรบกวนจะฝูงชนและแฟลชจากกล้องถ่ายรูปของผู้ชมเอง ก็ทำให้หิ่งห้อยไม่ปล่อยแสงออกมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกือบสร้างความชุลมุนมาแล้ว เนื่องจากสร้างความผิดหวังให้แก่ผู้ชม เช่นกัน และในเดือนเดียวกัน (ก.ค. 2556) สวนจงซาน ในชิงเต่า มณฑลซานตง ทำการปล่อยหิ่งห้อยถึง 10,000 ตัว แต่ก็ตามเกินครึ่ง หลังผ่านไปเพียงแค่ 3 วัน
ความหวังที่จะเห็นแสงหิ่งห้อย 30,000 ตัว ระยิบระยับ สร้างความโรแมนติกในค่ำคืนสุดท้าย ก่อนหยุดยาววันแรงงาน กลับกลายเป็นความโกรธขึ้ง ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสลัว ว่างเปล่า บนรีสอร์ทเซียง เลค พลาซ่า
นักท่องเที่ยวจีน ราวๆ 10,000 คน และหลายคนมาจากมณฑลที่ห่างไกล ทั้งหมดเดินทางมายังรีสอร์ทดังกล่าว ในเมืองหังโจว เพื่อเข้าร่วมคืนเปิดงานแสดงหิ่งห้อย โดยงานดังกล่าวจำหน่ายบัตรค่าเข้าชมราคา 30 หยวน หรือราวๆ 150 บาท และบางคนต้องจ่ายมากถึง 180 หยวน หรือประมาณ 900 บาท สำหรับราคาตั๋วผี
ตามกำหนดการ งานดังกล่าวเริ่มขึ้นในเวลา หนึ่งทุ่มครึ่ง แต่ทว่าก็ไม่มีหิ่งห้อยแม้สักตัว ไชน่า นิวส์ เซอร์วิส รายงานวานนี้ (1 พ.ค.)
หลังอดทนรอนานกว่า 2 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจึงไปรวมตัวกันที่สำนักงานของทางรีสอร์ทผู้จัดงาน ในเขตเสี่ยวซัน เรียกร้องขอเงินค่าบัตรคืน และขอคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ทว่า ทางรีสอร์ทฯกลับไม่ดำเนินการใดๆ มวลมหานักท่องเที่ยวจึงเริ่มโกรธขึ้ง และทำลายข้าวของ ของทางรีสอร์ทฯ
ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ผู้คนเริ่มทำลายข้าวของของผู้จัดงาน มีการปาหน้าต่างกระจก เตะทำลายประตูล็อคเกอร์ที่จัดไว้บริการนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ตั้งข้อสงสัยไว้ในสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังของจีน เวยปั๋ว (คล้ายทวิตเตอร์) ไว้ว่า เหตุใดทางผู้จัดงานจึงไม่สามารถคืนเงินให้แก่ผู้ชมได้ ทั้งๆ ที่หลายคนอุตส่าห์ดั้นด้นมาตั้งไกล เพียงเพื่อเข้าชมงานนี้
“เรายอมรับความจริงได้ ว่าไม่มีหิ่งห้อยเพราะอากาศหนาว แต่คนจัดงานก็ควรหยุดขายตั๋วและคืนเงินให้แก่พวกเรา” นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว แสดงความเห็น
หลายคนเห็นว่า การปล่อยหิ่งห้อยท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย จะทำให้พวกมันตายได้โดยง่าย เนื่องจากหิ่งห้อย เป็นสัตว์ที่เปราะบางกับ อุณหภูมิ เสียง และแสง ดังนั้น อุณหูมิภูมิที่ต่ำเกินไป ในเสี่ยวฉาน จึงอาจเป็นปัจจัยให้หิ่งห้อยหายไป เพราะการเปล่งแสงและการผสมพันธุ์ของหิ่งห้อย จำเป็นต้องอยู่ในสภาพอากาศอุ่น และคาดว่า ตลอดอีก 6 วันข้างหน้า อุณหภูมิในเขตดังกล่าว จะลดลงต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของหนังสือพิมพ์หัวสี ตูฉี ไควเป่า ของหางโจว เดลี เพรส กรุ๊ป ระบุว่า ผู้จัดงานตัดสินใจยกเลิกงานแสดงหิ่งห้อยดังกล่าวแล้ว และผู้ถือบัตรสามารถของเงินคืนได้ในอีก 10 วันถัดไป โดยก่อนหน้านี้ งานแสดงหิ่งห้อย มีโปรแกรมแสดงตลอดช่วงวันแรงงานที่หยุดยาว ตั้งแต่วันที่ 1 จนถึง 3 พ.ค.
ก่อนหน้านี้ เมื่อเขตเสี่ยวฉาน ออกประกาศเกี่ยวกับงานแสดงดังกล่าว เครือข่ายพลเมืองจีน ก็ออกมาทักท้วงแล้ว เนื่องจากเห็นว่า การขนย้ายหิ่งห้อยกว่า 30,000 ตัว จากฟาร์มเจียงซี ไปยังทะเลสาบดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 10 ชั่วโมง ถือว่า “โหดร้าย” เกินไปสำหรับสัตว์
หิ่งห้อยที่โตเต็มวัย มีวงจรชีวิตสั้นมาก อยู่ได้เพียงแค่ 3-5 วัน (เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่) ตามแต่พันธุ์ของพวกมัน ส่วนหิ่งห้อยป่ามีชีวิตอยู่ได้นานถึง 2 เดือน พวกมันมักเปล่งแสงในช่วงดึกค่ำคืนเดือนก.ค. ถึง ส.ค. โดยเฉพาะในสวน และตามชนบทที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.ค. (2556) ที่ผ่านมา มณฑลหูหนาน ปล่อยหิ่งห้อยกว่า 15,000 ตัว แต่เสียงรบกวนจะฝูงชนและแฟลชจากกล้องถ่ายรูปของผู้ชมเอง ก็ทำให้หิ่งห้อยไม่ปล่อยแสงออกมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกือบสร้างความชุลมุนมาแล้ว เนื่องจากสร้างความผิดหวังให้แก่ผู้ชม เช่นกัน และในเดือนเดียวกัน (ก.ค. 2556) สวนจงซาน ในชิงเต่า มณฑลซานตง ทำการปล่อยหิ่งห้อยถึง 10,000 ตัว แต่ก็ตามเกินครึ่ง หลังผ่านไปเพียงแค่ 3 วัน