xs
xsm
sm
md
lg

ชี้พญามังกรรุกจับ “เสือใหญ่” จอมคอรัปชั่น ยึดทรัพย์ 4.5 แสนล้านบาท จากญาติๆ พวกพ้องยันคนใช้ ของอดีต “ซาร์” ความมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: สุรัตน์ ปรีชาธรรม

นาย โจว หย่งคัง อดีตคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ ฉายา “ชาร์” ความมั่นคงจีน ปัจจุบันปลดเกษียณแล้ว เป็นเป้าหมายใจกลางกวาดล้างคอรัปชั่นจีน ที่วงการจับตาไม่วางอยู่ขณะนี้ ภาพ: โจว หย่งคังในที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนหรือรัฐสภาจีน ปี 2550 (แฟ้มภาพ รอยเตอร์ส)
ASTVผู้จัดการออน์ไลน์--ปฏิบัติการปราบปรามคอรัปชั่นของผู้นำจีน กำลังรุกคืบถึงตัว “เสือใหญ่” โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปดั่งคลื่นใต้น้ำที่กำลังเชี่ยวแรง ด้วย “เสือใหญ่” รายนี้อาจเรียกได้ว่าตัวใหญ่สุดของกรณีอื้อฉาวคอรัปชั่นระหว่างช่วงประวัติศาสตร์กว่า 60 ปีของสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ นาย โจว หย่งคัง อดีต “ซาร์” ภาคความมั่นคง ผู้ทรงอิทธิพลคับฟ้าล้นแผ่นดินใหญ่ เคยเรืองอำนาจในองค์กรอำนาจชี้ขาดของประเทศคือคณะกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ ดังนั้น การเคลื่อนไหวแบบโฉงฉ่าง ก็มีแต่จะทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคฯมัวหมอง

ในสุดสัปดาห์ของปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่เริ่มพิจารณาคดี นาย หลิว ฮั่น เจ้าของเหมืองแร่ในมณฑลซื่อชวน (หรือเสฉวน) และหลิว เหวย น้องชายกับพวกอีก 34 คน ที่ศาลประชาชนชั้นกลางเมืองเสียนหนิงในมณฑลหูเป่ยเมื่อวันจันทร์ (31 มี.ค.) ซึ่งแหล่งข่าวชี้ว่าจะเป็นบันไดสาวไปถึงกรณีอื้อฉาวคอรัปชั่นของนาย โจว หย่งคัง ในเอกสารคำฟ้องระบุข้อกล่าวหากลุ่มจำเลยใน “คดี หลิว ฮั่น” 15 กระทง ทั้งอาชญากรรมแบบแก๊งมาเฟีย เปิดบ่อนการพนัน ฆาตกรรม ข่มขู่ทำร้าย ให้สินบนตำรวจ เป็นต้น

สำหรับนาย หลิว ฮั่นนี้ เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 148 แห่งทำเนียบนักธุรกิจจีนผู้มั่งคั่งที่จัดอันดับโดยฟอร์บประจำปี 2555 ด้วยสินทรัพย์ 855 ล้านเหรียญสหรัฐ ครอบครัวรวยขนาดมีฝูงรถยนต์เฟอร์รารี่ และก็คงมิน่าประหลาดใจเลยหากจะมีการระบุว่าเขามีสายสัมพันธ์กับนาย โจว หย่งคัง ผู้มีฐานอำนาจเก่าในเสฉวน
นาย หลิว ฮั่น มหาเศรษฐีเหมืองแร่ในเสฉวน ผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นหัวโจกในแก๊งมาเฟีย ถูกนำมามายังศาลประชาชนชั้นกลางเมืองเสียนหนิง มณฑลหูเป่ยเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2557 แหล่งข่าวชี้คดีจะเป็นบันไดสาวไปถึงกรณีอื้อฉาวคอรัปชั่นของนาย โจว หย่งคัง  (ภาพ ซินหวา)
ในเวลาไลเลี่ยกันนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้อ้างแหล่งข่าวสองรายเผยว่า มีการยึดทรัพย์มูลค่าอย่างน้อย 90,000 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยตกราว 450,000 ล้านบาท จากสมาชิกในครอบครัวและพวกพ้องของนาย โจว หย่งคัง อดีตนายใหญ่แห่งสำนักการเมืองกลางของพรรคฯ ผู้มีฉายา “ซาร์” แห่งความมั่นคงจีน คือหน่วยตำรวจที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศนั่นเอง

ข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมาญาติๆและพวกพ้องทั้งที่เป็นพันธมิตรการเมือง ผู้อยู่ใต้การอุปถัมภ์ และคนรับใช้อื่นๆ ของนายโจว หย่งคัง รวมกว่า 300 คน ถูกจับมาอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่หรือสอบปากคำ โดยการยึดทรัพย์และการไต่สวนบุคคลรอบๆตัว “เสือใหญ่โจว”นี้ ที่ยังไม่ปรากฏเป็นรายงานข่าวทางการหรือมีการแถลงใดจากรัฐบาล ด้านหน่วยเฝ้ายามสกัดคอรัปชั่นและสำนักอัยการก็ไม่ตอบคำถามใดแก่ผู้สื่อข่าว ทั้งนี้เป็นปกติวิสัยในโลกแห่งความลับของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่การไต่สวนคดีอื้อฉาวใหญ่ในหมู่ผู้นำพรรคฯจะหายเงียบเป็นเป่าสากไปเป็นนานนับเดือนหรือนับหลายปี กว่าที่จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการ

แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์สก่อนหน้านี้ว่า ผู้นำสีได้สั่งการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในปลายเดือนพ.ย. หรือต้นเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว(2556) เพื่อไต่สวน “ข้อกล่าวหา” ต่อนายโจว หย่งคัง จากนั้นมา โจวก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เสมือนถูกกักบริเวณในบ้าน

สำหรับนายโจว วัย 71 ปี ผู้นี้ เคยจ้าวใหญ่คร่ำหวอดในภาคน้ำมันและแก็ส เป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯเมื่อปี 2550 และระหว่างที่เขาเป็นนายใหญ่คุมความมั่นคงของประเทศ งบฯการป้องกันฯของหน่วยงานก็บานเกินเหตุ โจวปลดเกษียณในปี พ.ศ.2555 วงการได้เห็นเขาปรากฏกายครั้งสุดท้ายในงานศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยปิโตรเลียมแห่งจีนเมื่อวันที่ 1 ต.ค.

แหล่งข่าวสองรายแรกแจงด้วยว่าอัยการและหน่วยเฝ้ายามปราบคอรัปชั่นได้อายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร ที่มียอดเงิน 37,000 ล้านหยวน และยึดพันธบัตรทั้งในและนอกประเทศรวมมูลค่า 51,000 ล้านหยวน หลังจากที่เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นบ้านในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และบ้านในอีกห้ามณฑล

นอกไปจากนี้ยังมีการยึดของกลาง ได้แก่ คฤหาสน์ อพาร์ทเมนท์ ราว 300 หลัง/ห้อง มูลค่ารวม 1,700 ล้านหยวน พร้อมยึดภาพเขียนร่วมสมัยหลายภาพ ที่มีมูลค่าตลาดถึง 1,000 ล้านหยวน กับรถยนต์มากกว่า 60 คัน รวมทั้งเหล้าราคาแพง ทองคำ เงิน และเงินสดทั้งสกุลเงินท้องถิ่นและต่างประเทศ

ของกลางทั้งหมดนี้เป็นของญาติๆและพวกพ้องที่ถูกจับมาอยู่ภายใต้การดูแลฯ โดยชื่อเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดนี้ไม่ใช่ชื่อของโจว

แหล่งข่าวที่เผยข่าวซีฟนี้ระบุว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดนี้ มีมูลค่าอย่างน้อย 90,000 ล้านหยวน อย่างไรก็ตามก็ไม่เป็นที่ชัดเจนจะมีการส่งมอบฯให้รัฐหรือไม่ ทั้งนี้ยอดมูลค่าสินทรัพย์ที่ยึดมาจากเจ้าหน้าที่คอรัปชั่น มักถูกกดมูลค่าราคาให้ต่ำกว่ายอดจริง เพื่อที่พรรคฯจะไม่อับอายอดสูไปมากกว่านี้ และไม่กระตุกความโกรธแค้นแก่ประชาชนทั่วไปใหญ่โต

แหล่งข่าวอีกรายที่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มการนำในจีนกล่าวว่าโจวปฏิเสธให้ความร่วมมือกับพนักงานไต่สวน โดยยืนกรานว่าเขาเป็นเหยื่อการช่วงชิงอำนาจการเมือง

รายนามผู้ถูกจับ ยาวเป็นหางว่าว
แหล่งข่าวเดียวกันเผยต่อว่า ญาติของโจวที่ถูกควบคุมตัว มีกว่า 10 คน รวมทั้งภรรยาอดีตผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ จย่า เซี่ยวเย่ บุตรชายคนโตที่เกิดแต่ภรรยาคนก่อน นาย โจว ปิน และพี่น้องของโจว หย่งคัง

คนอื่นๆ มีอาทิ อดีตประธานของยักษ์ใหญ่บริษัทภาคพลังงานจีนทั้งสองรายคือ ปิโตรไชน่า (PetroChina) และบริษัทแม่ของปิโตรไชน่าคือ ไชน่า เนชั่นนัล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (China National Petroleum Corporation /CNPC) นาย เจียง เจี๋ยหมิ่น, อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ นาย หลี่ ตงเซิ่ง, และอดีตรองผู้ว่ามณฑลไห่หนัน (หรือไหหลำ) นาย จี้ เหวินหลิน โดยสื่อทางการจีนประกาศว่าทั้งสาม เจียง เจี๋ยหมิ่น, หลี่ ตงเซิง และจี้ เหวินหลิน ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดวินัยขั้นร้ายแรง

นอกจากนี้ พวกพ้องของโจวอีกกว่า 20 คน ที่ถูกจับควบคุมตัวไว้ มีทั้งบอดี้การ์ด เลขาฯ ยันคนขับรถ ขณะที่สมาชิกครอบครัวหลายคน และผู้ใกล้ชิดถูกนำตัวมาสอบปากคำ

การจัดการ “เสือใหญ่ โจว” นี้ จะเป็นเครื่องพิสูจน์การปราบทุจริตคอรัปชั่นของผู้นำสี จิ้นผิง นายใหญ่พรรคฯและประมุขรัฐมังกร สีเพิ่งครองอำนาจฯเมื่อปลายปี 2555 และได้ลั่นจาวาจะไล่ล่าเด็ดปีกทั้งเหล่า “เสือใหญ่” ไปถึงพวก “แมลงวันตัวน้อย” ในปฏิบัติการล้างบางคอรัปชั่น ที่คุกคามความความเป็นความตายของพรรคฯ

“ฝ่าด่านอรหันต์” จับเสือใหญ่
แต่สี ก็กำลังตกที่นั่งลำบากราวนั่งอยู่ระหว่าง “เขาควาย” ที่คอยทิ่มแทงอยู่สองด้าน การนำตัวโจวเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีนั้น จะยิ่งทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคฯ แหล่งข่าวที่สามชี้โดยอ้างถึงกระแสผิดหวังต่อกลุ่มผู้นำซึ่งเต็มไปด้วยการละเมิดอำนาจและการทุจริต

นอกจากนี้กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้สีกำลังเสี่ยงกับการโดดเดี่ยวผู้นำอาวุโสคนอื่นๆที่กำลังวิตกจริตกันว่าพวกเขาและครอบครัวจะเป็นคิวต่อไป การนำตัวผู้ทรงอิทธิพลอย่างโจวขึ้นสู่คอกจำเลยในศาลนั้น เป็นการตัดสินทางการเมืองที่มีแต่สีเท่านั้นที่อาจทำได้หลังจากที่ได้รับฉันทามติจากสมาชิกอาวุโสในพรรคฯ ทั้งอดีตนายใหญ่พรรคฯ และบรรดาเจ้าหน้าที่สูงสุดที่ปลดเกษียณไปแล้ว

สำหรับการสั่งการไต่สวนผู้นำโจว สีก็ได้แหกคอกกฏที่มิได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ที่ระบุว่าสมาชิกที่อยู่ในตำแหน่ง และทั้งสมาชิกที่ปลดเกษียณแล้วของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯนั้น ได้รับความคุ้มครองจากการดำเนินคดี

แหล่งข่าวเผยว่าโจวโมโหสีและผู้นำคนอื่นๆ ในเรื่อง “อื้อฉาว ปั๋ว ซีไหล” ปั๋วถูกปลดฯสิ้นอนาคตการเมืองในปี 2555 หลังจากกรณีอื้อฉาวของภรรยา นางกู่ ไคไหลซึ่งถูกดำเนินคดีฆาตกรรม ศาลตัดสินนางกู่มีความผิดจริง สังหารคู่หุ้นส่วนชาวอังกฤษโดยวางยาพิษ ก่อนที่ปั๋วถูกปลดฯนั้น โจวหมายตาไว้ว่าปั๋วจะนั่งเก้าอี้นายใหญ่ความมั่นคงภายในแทนเขา.


กำลังโหลดความคิดเห็น