เอเยนซี - หลังจากสถานการณ์ประท้วงข้อตกลงการค้าไทเป-ปักกิ่ง ของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยซึ่งบุกยึดอาคารสภาบริหารและสำนักงานคณะรัฐมนตรีบนเกาะไต้หวัน ส่อเค้ายืดเยื้อยาวนานและเพิ่มความรุนแรงโดยมือที่สาม ทำให้นายกรัฐมนตรีไต้หวันแสดงท่าทีนุ่มนวล พร้อมตั้งโต๊ะพูดคุยกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม
รายงานข่าว (25 มี.ค.) กล่าวว่า นายหม่า อิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวัน เผยผ่านโฆษกส่วนตัวว่าพร้อมเปิดการเจรจาและทำความเข้าใจกับแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ความวุ่นวายในปัจจุบัน โดยระบุว่า “ประธานาธิบดีหม่ายินดีที่จะเชิญตัวแทนกลุ่มนักศึกษามายังทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อเจรจาพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยปราศจากการกำหนดเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ ไว้ก่อน”
ล่าสุด แกนนำกลุ่มนักศึกษาได้ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีแล้วเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมราว 2,000 คน ซึ่งบุกล้อมอาคารสำนักงานคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ช่วงค่ำวันอาทิตย์ ได้พยายามจู่โจมเข้าไปภายในอาคารเมื่อเช้ามืดของวันจันทร์ (24 มี.ค.) จนเป็นเหตุให้ทางการต้องสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลพร้อมอาวุธกระบองและรถบรรทุกปืนฉีดน้ำเข้าผลักดันและสลายฝูงชนซึ่งมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 150 คน ขณะเดียวกันก็จับกุมนักศึกษาที่ก่อความรุนแรงได้ 61 ราย
ด้านนายเจียง อีฮว่า นายกรัฐมนตรีไต้หวัน เผยวานนี้ว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นการอภิปรายกับฝ่ายตรงข้ามหรือผู้นำของพรรคฝ่ายค้านในสภา เพราะเล็งเห็นว่า “มันช่วยชี้นำข้อดี-ข้อเสียของการทำสัญญาฯ ตลอดจนพัฒนาช่องทางสื่อสารระหว่างพรรคการเมืองกับภาคส่วนอื่นๆ ในสังคม” นอกจากนั้นยังช่วยคลายความสงสัยของสาธารณะและแก้ไขสถานการณ์ความไม่สงบในขณะนี้
อย่างไรก็ดี นายกฯ เจียงบอกว่าแม้ยินดีจะเปิดการแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าทั้ง 24 มาตรานี้ แต่ก็อยากตั้งคำถามถึงกลุ่มนักศึกษาเช่นกันว่าทำไมจึงยืนกรานให้ยุติการทบทวนสัญญาฉบับดังกล่าว ทั้งที่ข้อเรียกร้องแรกเริ่มของนักศึกษาต้องการเพียงให้ทบทวนแบบบทต่อบทอย่างละเอียดถี่ถ้วนเท่านั้น
นายกฯ ไต้หวันกล่าวอีกว่า จากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมราว 100 คน พยายามใช้บันได้บุกปีนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้บีบบังคับให้เขาต้องสั่งการตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ เพราะเห็นได้ชัดว่าเป็นความพยายามขัดขวางกระบวนการบริหารงานของรัฐบาลอย่างร้ายแรง
“เราไม่สามารถยินยอมให้เกิดการยึดครองสภาบริหารที่มีความสำคัญต่อระบบบริหารไปได้เด็ดขาด” เจียงกล่าว
อนึ่ง กลุ่มนักศึกษาที่รวมตัวกันได้เข้ายึดอาคารรัฐสภาตั้งแต่วันอังคาร (18 มี.ค.) จนกระทั่งในวันอาทิตย์ (23 มี.ค.) ได้เคลื่อนขบวนมาปิดล้อมและพยายามจู่โจมเข้าอาคารสำนักงานคณะรัฐมนตรี หลังประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว กล่าวปฏิเสธยกเลิกการทำสัญญา โดยให้เหตุผลว่าสัญญามีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไต้หวันในอนาคต
ทว่าสมาชิกของ Black Island Nation Youth Front หน่วยประสานงานหลักของการชุมนุมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความคิดของคนกลุ่มเล็กๆ ในที่ชุมนุมเท่านั้น โดยหลิน เฟยฟ่าน แกนนำกลุ่มนักศึกษารายหนึ่ง กล่าววานนี้ว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการบุกเข้าทำลายสำนักงานคณะรัฐบาล แม้ว่าต่างมีเป้าหมายการชุมนุมในทิศทางเดียวกัน
“เราขอยืนยันการใช้วิธีเคลื่อนไหวที่สงบสันติ เพื่อบรรลุเป้าหมายของพวกเรา”