xs
xsm
sm
md
lg

จีนสั่งไต่สวนรร.อนุบาล-ประถมฯทั่วประเทศ หลังเหตุอื้อฉาวจัดยาให้เด็กกินโดยพ่อแม่ไม่รู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แม่คนหนึ่งในเมืองซีอันโกรธมากระหว่างเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการไต่สวนกรณีโรงเรียนจัดยาให้เด็กกินโดยไม่แจ้งพ่อแม่มาเป็นเวลานานถึง 5 ปี  (ภาพ ไชน่าโฟโตเพรส)
เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์— คณะกรรมการวางแผนครอบครัวและสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงศึกษาจีน ออกคำสั่งการไต่สวนโรงเรียนอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้นในประเทศ เพื่อตรวจดูว่าเจ้าหน้าหรือครูได้จัดยาให้เด็กนักเรียนกินหรือไม่ ขณะที่พ่อแม่หลายคนในซีอันโกรธ และว่า ลูกๆมีปวดหัว ปวดตามตัว และคัน ฯลฯ

คำสั่งการตรวจสอบโรงเรียนฯดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวแฉโรงเรียนอนุบาลในมณฑลส่านซี และจี๋หลิน จัดยาให้เด็กกินโดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่รู้ หรือมีการแจ้งฯเพื่อขอความยินยอม

ทั้งนี้ รายงานข่าวฯระบุถึงเหตุที่โรงเรียนให้เด็กกินยาโดยไม่แจ้งผู้ปกครอง เนื่องจากโรงเรียนจะได้รับเงินช่วยเหลือในแต่ละวันที่มีเด็กมาเข้าเรียน ดังนั้นโรงเรียนจึงให้เด็กกินยา เพื่อประกันว่าเด็กๆจะมาเข้าเรียน

“เป้าหมายของการไต่สวนฯนี้ เพื่อตรวจสอบว่ามีการจัดให้เด็กกินยาโดยผิดกฎหมายหรือไม่

“เจ้าหน้าที่ในโรงเรียนที่ละเมิดกฎฯจะถูกลงโทษขั้นหนัก และจะต้องยื่นผลการไต่สวนฯภายในวันที่ 15 เม.ย.นี้ ” คำแถลงจากหน่วยงานรัฐระบุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าโรงเรียนอนุบาลสองแห่งในเมืองซีอัน มณฑลส่านซี ได้จัดให้เด็กกินยาแก้โรคหวัด (moroxydine hydrochloride) มานาน 5 ปี แล้ว พ่อแม่กว่า 500 คน ในเมืองซีอัน บอกว่า ลูกๆของพวกเขามีอาหารปวดหัว เจ็บปวดตามร่างกาย คัน และเบื่ออาหาร ฯลฯ

นอกจากนี้ในวันจันทร์(17 มี.ค.) ยังพบว่าโรงเรียนอนุบาลในจี๋หลิน แอบให้เด็กกินยา นับเป็นโรงเรียนรายที่สามที่ละเมิดกฎฯให้ยาแก่เด็กโดยไม่แจ้งพ่อแม่

ตำรวจเผยว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการจับกุมเจ้าหน้าที่โรงเรียน 5 คน รวมทั้งครูใหญ่ของโรงเรียนทั้งสองแห่งที่เมืองซีอัน ในฐานะผู้ต้องสงสัยจัดยาให้เด็กกินโดยผิดกฎหมาย

ในใบประกาศของหน่วยงานรัฐ ได้ประณามโรงเรียนอนุบาลเหล่านี้ว่ากระทำการอันละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรงและ “ส่งผลกระทบเสียหายต่อสังคมอย่างมาก” เจ้าหน้าที่โรงเรียนสามารถจัดยาให้เด็กกินได้ในบางสถานการณ์ที่จำเป็น แต่จะต้องยึดถือหลักแนะแนวอย่างเคร่งครัด ทั้งยังต้องมีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหรือแพทย์ก่อน และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานด้านการศึกษาและสาธารณสุขระดับสูงกว่าระดับอำเภอ/เขต.


กำลังโหลดความคิดเห็น