กันอิ๋ง นักแม่นธนูแห่งโบราณกาล ศิษย์ชื่อ เฟยเว่ย ได้มาร่ำเรียนกับกันอิ๋ง ฝีมือยิงธนูของเฟยเว่ยเลิศล้ำยิ่งกว่าผู้เป็นครู ต่อมาจี้ฉังก็ได้มาขอฝึกปรือกับเฟยเว่ย เฟยเว่ยกล่าวว่า “เบื้องแรก เจ้าจักต้องเรียนไม่กระพริบตา จึงค่อยมาขอเรียนยิงธนูกับข้า”
จี้ฉังกลับไป นอนหงายอยู่ใต้เครื่องทอผ้าของภรรยา เบิ่งตาจ้องมองแผ่นเท้าเหยียบ สองปีต่อมาแม้ปลายแหลมเหล็กหมาดพุ่งเข้าจ่อหางตา ก็หาได้กระพริบตาแม้แต่น้อยไม่ จึงไปบอกแก่เฟยเว่ย เฟยเว่ยกล่าวว่า “ยังก่อน เจ้าจักต้องเรียนการมอง มองสิ่งเล็กดั่งเป็นสิ่งใหญ่ มองอณูเห็นถนัดชัดเจน หลังจากนั้นค่อยมาบอกแก่ข้า”
ฉังใช้เส้นขนหางวัวมัดตัวเห็บแขวนไว้ที่หน้าต่าง เพ่งมองจากเบื้องทิศใต้ที่ห่างไกลออกไป สิบวันให้หลัง มันก็ค่อยๆใหญ่ขึ้นๆ สามปีต่อมาก็ใหญ่ปานล้อรถ เมื่อหันไปมองสิ่งอื่นๆ ก็ล้วนแต่ดูใหญ่เทียมเขาลูกน้อย จากนั้นก็ได้ใช้เขาวัวแห่งแคว้นเยียนต่างคันศร ใช้กิ่งไผ่จากแดนเหนือแทนก้านธนู ยิงทะลุหัวใจเห็บ โดยที่เส้นขนหางวัวไม่ขาด จึงมาบอกกล่าวแก่เฟยเว่ย เฟยเว่ยดีใจกระโดดโลดเต้น ตบหน้าอกของจี้ฉัง “เจ้าเข้าถึงหัวใจการยิงธนูแล้ว!”
จากหนังสือ “เลี่ยจื่อ” 《列子》โดย เลี่ย อี้ว์โค่ว (列御寇)