เอเยนซี - ศาลจีนในมณฑลเจ้อเจียงสั่งประหารชีวิตนายเหลียน เอินชิง วัย 33 ปี หลังบุกสังหารแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่เขาไปทำการศัลยกรรมจมูกแต่ไม่พอใจผลที่ได้รับ ปลุกกระแสประท้วงจากหมอและพยาบาลร้องขอความปลอดภัยในชีวิตการทำงาน
ซินหวา สื่อทางการจีน รายงาน (27 ม.ค.) ว่า ศาลประชาชนจีนในมณฑลเจ้อเจียงประกาศตัดสินโทษประหารชีวิตนายเหลียน เอินชิง อายุ 33 ปี อดีตคนไข้ของโรงพยาบาลประชาชน หมายเลข 1 เมืองเวินหลิ่ง มณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกของประเทศ หลังเขาได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายนายแพทย์เสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบาดเจ็บสาหัส 2 คน เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2556
เหตุสะเทือนขวัญเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของนายเหลียนต่อผลการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกของเขา โดยสมาชิกครอบครัวของนายเหลียนระบุว่า เขามีอาการปวดศีรษะ หายใจไม่สะดวก และเจ็บปวดบริเวณบาดแผลหลังทำการผ่าตัด จึงได้เดินทางกลับไปยังโรงพยาบาลเพื่อสอบถามสาเหตุและการแก้ไข ทว่ากลุ่มนายแพทย์ก็ปฏิเสธการรักษาเพิ่มเติม โดยให้เหตุผลว่า “การผ่าตัดประสบผลสำเร็จดี”
“ขณะที่ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าการผ่าตัดไม่มีปัญหาใดๆ ทำให้นายเหลียนรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกหมอหลอกลวง” น้องสาวของเหลียนกล่าว
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวยังปลุกกระแสเรื่อง “ความปลอดภัยในการทำงาน” โดยในวันที่ 28 ต.ค. 2556 แพทย์และพยาบาลร่วมร้อยชีวิตในชุดเครื่องแบบสีขาว สวมใส่หน้ากากอนามัยสีน้ำเงินเข้ม ได้ออกมายืนประท้วงอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลฯ ที่เกิดเหตุ ชูธงเรียกร้อง “ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน” และความเคารพยำเกรงระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยให้มากขึ้น
ทั้งนี้ กรณีการทำร้ายแพทย์หรือพยาบาลในจีนปรากฏบ่อยครั้งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยจากสถิติของสมาคมโรงพยาบาลของจีนเผยว่า ในปี 2555 พบอัตราเฉลี่ยเหตุทำร้ายร่างกายแพทย์หรือพยาบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 สูงขึ้นจากปี 2551 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 20.8
สมาคมฯ เสริมอีกว่า ปัจจัยหลักของการก่อเหตุนั้นมาจากปัญหาการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วย ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และความไม่พอใจส่วนตัวของคนไข้ รวมถึงการที่มีจำนวนผู้ป่วยในการรักษาล้นมือจนไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง และค่าตอบแทนที่มีทีท่าลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิด “การรับสินบน” ระหว่างหมอกับคนป่วยมากขึ้น