เอเอฟพี - ฮ่องกงประกาศใช้ดัชนีวัดคุณภาพอากาศแบบใหม่ มาตรฐานใกล้เคียงกับเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก
นายแอนดรูว์ ไหล รองผู้อำนวยการแผนกป้องกันสิ่งแวดล้อมของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแถลงว่า ฮ่องกงจะนำดัชนีวัดคุณภาพอากาศที่มีผลต่อสุขภาพ (Air Quality Health Index - AQHI) มาใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป หลังจากมีการใช้ดัชนีวัดมลพิษในอากาศ (Air Pollution Index - API) มานานเกือบ 20 ปี เนื่องจากมีความวิตกกังวลกันมากขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในฮ่องกง จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลการตรวจสอบ ที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม โดยดัชนี AQHI นี้ แคนาดาประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2548 และมีมาตรฐานพอเปรียบเทียบกันได้กับเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก
นายเหลียง เจิ้น อิง หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงประกาศให้การแก้ปัญหามลพิษเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญอันดับต้นสำหรับการดำรงตำแหน่งระยะเวลา 5 ปีของเขา โดยในรายงานอย่างเป็นทางการฉบับหนึ่งระบุว่า มลพิษเป็นอันตรายต่อสุขภาพประจำวันของชาวฮ่องกงมากที่สุด
ดัชนี AQHI จะวัดระดับความเข้มข้นของมลพิษหลัก 4 ประเภทได้แก่ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ โอโซน และอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก ในขณะที่ดัชนี API วัดความเข้มข้นของมลพิษในระดับสูงสุดเท่านั้น โดยทางการฮ่องกงจะแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ภายในอาคาร หากการวัดค่าดัชนี AQHI ถึงระดับ “ร้ายแรง”
คณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงมีนโยบายลดการปล่อยมลพิษจากแหล่งต่าง ๆ ในฮ่องกง แต่ยอมรับว่า เป็นปัญหาทีท้ายทาย เนื่องจากฮ่องกงตั้งอยู่ตอนปลายด้านใต้ของเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน
นโยบายลดการปล่อยมลพิษของฮ่องกงยังรวมถึงแผนการการหารถบรรทุกและรถโดยสาร ซึ่งใช้น้ำมันดีเซลคันใหม่มาแทนที่คันเก่าจำนวนกว่า 80,000 คัน ระหว่างปี 2557-2562 และกำหนดให้เรือบรรทุกสินค้า ที่เทียบท่าฮ่องกงต้องใช้พลังงาน ที่สะอาดขึ้น
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกระบุเมื่อเดือนต.ค.ว่า มลพิษในอากาศเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งในมนุษย์