xs
xsm
sm
md
lg

จีนคุมเข้มพื้นที่เปราะบาง … จาก 'ทิเบต' สู่ 'ซินเจียง'

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายทหารกำลังเตรียมเชิญธงชาติจีนขึ้นสู่ยอดเสา เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติจีนปีที่ 64 (1 ต.ค.) ด้านหน้าพระราชวังโปตาลา นครลาซา แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบต (ภาพ - ซินหวา)
เอเยนซี - รัฐบาลจีนยังคงดำเนินมาตรการดูแลและควบคุมพื้นที่เสี่ยง ซึ่งอาจกระทบเสาหลักแห่งความั่นคงของประเทศให้เอนเอียงได้ โดยล่าสุด จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุประท้วงในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต ในวันเดียวกันก็มีการจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมายแพร่กระจายข่าวลือ “สงครามศักดิ์สิทธิ์” ในซินเจียง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน (9 ต.ค.) เหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงชาวทิเบตในเมืองปี่หรู เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตเมื่อวันอาทิตย์ (6 ต.ค.) ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 60 คน โดยสาเหตุเกิดจากความไม่พอใจที่ชายชาวทิเบตรายหนึ่งถูกจับกุม หลังต่อต้านคำสั่ง “ติดตั้งธงชาติ” ของทางการจีน

นาย Dorje Draktsel ชาวทิเบต ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน หลังจากเขาแสดงการขัดขืนคำสั่งของทางการ ที่ต้องการให้ชาวทิเบตติดตั้งผืนธงชาติจีนตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่สำคัญทางศาสนา เพื่อต้อนรับวันครบรอบการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนปีที่ 64 ในวันอังคาร (1 ต.ค.) ที่ผ่านมา

กลุ่มฟรีทิเบต องค์กรสนับสนุนสิทธิและเสรีภาพชาวทิเบตในอังกฤษ ระบุว่า ชาวทิเบตเริ่มรวมตัวกันบริเวณใจกลางเมืองในวันอาทิตย์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวนาย Dorje Draktsel ที่ถูกคุมขังมาเกือบสัปดาห์ ทว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามระงับการชุมนุมอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 60 คน และอีกราว 40 คน ถูกจับกุมตัวไว้ด้วย

อย่างไรก็ดี โครงการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อชนชาติทิเบต หรือไอซีที (International Campaign for Tibet: ICT) เผยว่า “ยังไม่สามารถชี้เฉพาะได้ว่ามีการใช้กระสุนจริงหรือแก๊สน้ำตาเข้าระงับเหตุวุ่นวายครั้งนี้” ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่า หลังจากติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่จีน ได้รับคำตอบว่า “ไม่มีการประท้วง และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ”

ไอซีที กล่าวเสริมว่า ก่อนหน้าช่วงหยุดยาววันชาติ ทางการจีนได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าประจำการในเมืองปี่หรูและละแวกใกล้เคียงเพิ่มขึ้น อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุชุลมุนดังกล่าว ทำให้ความเข้มงวดกวดขันในท้องที่สูงขึ้นเป็นเท่าตัว

ทางด้านนาย Tashi Phuntsok โฆษกรัฐบาลทิเบตพลัดถิ่นในเมืองธรรมศาลา ประเทศอินเดีย เผยว่า ทางรัฐบาลฯ ทราบเรื่องแล้ว แต่รายละเอียดสถานการณ์ผู้บาดเจ็บยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีชาวทิเบตอย่างน้อย 120 คน จุดไฟเผาตัวเองเพื่อประท้วงรัฐบาลจีน ซึ่งชาวทิเบตชี้ว่ารัฐบาลจีนกดขี่ด้านศาสนา และพยายามกลืนกินวัฒนธรรมทิเบต รวมถึงการผลักดันชาวจีนฮั่นเข้ามาตั้งรกรากในทิเบตมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนระบุว่า การดำเนินนโยบายต่างๆ มีเป้าหมายทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวทิเบตเอง
เจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมการซ้อมรบในเขตปกครองตนเองซินเจียงชนชาติอุยกูร์ (ภาพ - เอเอฟพี)
ตำรวจซินเจียงจับผู้ต้องหา 139 ราย ปล่อยข่าว “สงครามศักดิ์สิทธิ์” ว่อนเน็ต

สื่อจีนรายงาน (9 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตปกครองตนเองซินเจียงชนชาติอุยกูร์ ดำเนินการสอบสวนประชาชนราว 256 คน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อย “ข่าวลืออันกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศ” บนโลกออนไลน์จีน โดยมี 139 คน ถูกตั้งข้อหาและต้องโทษจำคุก เนื่องจากพบว่าพยายายเผยแพร่เรื่อง “สงครามศักดิ์สิทธิ์” (Jihad) เมื่อวันอังคาร (8 ต.ค.) ที่ผ่านมา

“เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินมาตรการอย่างจริงจังกับผู้ที่พยายามทำกิจกรรมอันผิดต่อกฎหมายโลกออนไลน์ของจีน … เราจะไม่ปล่อยให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องมือของการก่ออาชญากรรมในพื้นที่” เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์สันติราษฎร์ของซินเจียงกล่าว

อย่างไรก็ดี ทางการจีนได้จับกุมและลงโทษชาวอุยกูร์อยู่บ่อยครั้ง จากพฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า “เป็นการสรรเสริญแนวคิดสุดโต่งและลัทธิแบ่งแยกดินแดน” ทว่า กรณีจับกุมชนชาติอุยกูร์ล่าสุดนี้เชื่อมโยงถึงข้อกฎหมายที่มุ่งควบคุมการแพร่กระจายข่าวลือ อันจะสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมและประเทศชาติ ซึ่งทางการจีนเพิ่งประกาศบังคับใช้เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนแสดงความเห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นเพียงเครื่องมือชิ้นใหม่ ที่ช่วยให้ทางการจีนเข้าควบคุมและยับยั้งการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากโลกอินเทอร์เน็ตของชาวอุยกูร์ได้สะดวกขึ้นเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ ซินเจียงเป็นถิ่นอาศัยของประชากรชาวมุสลิมอุยกูร์กว่าร้อยละ 46 ขณะที่มีชาวจีนฮั่นเพียงร้อยละ 39 ทว่า ในช่วงระยะที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้ชาวจีนฮั่นเข้ามาอยู่ในพื้นที่มากขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งเป็นประจำ โดยศึกปะทะครั้งใหญ่ระหว่างชาวอุยกูร์กับจีนฮั่นเกิดขึ้นในอูลู่มู่ฉี เมืองเอกของมณฑลฯ เมื่อเดือน ก.ค. ปี 2551 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 200 ราย จนรัฐบาลจีนต้องก้าวเข้ามาสะสางปมปัญหาอย่างเด็ดขาดและจริงจัง

ทางด้านสมาคมชนชาติอุยกูร์ ก็กล่าวตำหนิรัฐบาลจีนที่พยายามแทรกแซงภาษา วัฒนธรรม และความเชื่อทางศาสนาของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา แม้จีนจะชี้แจงว่า การเข้ามาพัฒนาดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาตินี้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานชีวิตของประชาชนชาวอุยกูร์เองก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น