เอเอฟพี--ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานาธิบดีอิสลาม คารีมอฟแห่งอุซเบกิสถาน ลงนามข้อตกลงมูลค่าถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในภาคธุรกิจต่างๆ รวมทั้งโครงการสำรวจน้ำมัน แก๊ส และยูเรเนียม
ประธานาธิบดีคารีมอฟ ได้กล่าวแสดงความปิติต่อการที่อุซเบกได้ขยายความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นหัวรถจักรของเศรษฐกิจโลก
“ระหว่างการพัฒนาอย่างอิสระของเราในหลายปีมานี้ จีนไม่เคยเชื่อมโยงการขยายความร่วมมือทวิภาคีกับการเมืองหรือเงื่อนไขใด” คารีมอฟ กล่าวแก่กลุ่มผู้สื่อข่าว ซึ่งดูจะพาดพิงถึงความสัมพันธ์ที่ลุ่มๆดอนๆกับชาติตะวันตก ที่มักมีความวิตกด้านสิทธิมนุษย์ชนเข้ามาเป็นเงื่อนไข
ทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามในเอกสาร ซึ่งระบุการเปลี่ยนสาระในข้อตกลงท่อขนส่งแก๊สระหว่างจีน-อุซเบกิสถานที่ได้ลงนามกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สืบเนื่องมาจากแผนการก่อสร้างท่อขนส่งแก๊สตูร์เมนิสถาน-จีน สายที่ 4 ซึ่งจะผ่านอุซเบกิสถานและคาซัคสถาน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกำลังอยู่ในระหว่างการเดินสายเยือนชาติเอเชียกลางที่อุดมไปด้วยบ่อน้ำแก๊สและน้ำมัน ซึ่งเป็นการเยือนที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในวงการเมืองระหว่างประเทศ ก่อนหน้าการเยือนอุซเบก สีได้ลงนามข้อตกลงด้านพลังงานในตูร์เมนิสถาน และคาซัคสถาน และชาติต่อไปที่สีจะไปเยือนคือ คีรกีสถาน
จากการแถลงของประธานาธิบดีคารีมอฟ ระบุ นับจากปี 2545 จีนได้ลงทุนในภาคเศรษฐกิจอุซเบก มากกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านปริมาณการค้าระหว่างสองชาติ ก็สูงถึง 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว(2555)
“หนึ่งในภารกิจส่งเสริมความสัมพันธ์สองชาติ คือ เพิ่มการค้าให้ถึง 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2560” สี กล่าว
หลังจากลงนามข้อตกลงฯกันแล้ว สีก็จะไปเยือนซามาร์คานด์ (Samarkand) นครแห่งเส้นทางสายไหมโบราณ ทั้งนี้เป็นที่คาดว่าจะมีการเปิดสถาบันขงจื่อในซามาร์คานด์
