เซี่ยงไฮ้เดลี - ผู้โดยสารถูกพนักงานสายการบินไชน่า อีสเทิร์นจับส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังดื้อโทรศัพท์ระหว่างเครื่องลงที่สนามบินเวินโจว ในมณฑลเจ้อเจียง จนสัญญาณไปรบกวนระบบนำทางเครื่องบิน
วานนี้ (25 เม.ย.) ผู้โดยสารคนหนึ่งถูกพนักงานสายการบินไชน่า อีสเทิร์น ควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่เขาพยายามจะโทรศัพท์ออก ก่อนที่เที่ยวบินที่ MU2641 จากเมืองฉางซา ในมณฑลหูหนาน กำลังจะลงจอดที่สนามบินเวินโจว ทางตะวันออกของมณฑลเจ้อเจียง
สายการบินที่มีฐานอยู่ ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ระบุว่านักบินของเที่ยวบินดังกล่าวพบว่าระบบนำทางของเครื่องบินเอ็มเบรเออร์รุ่น EMB-145 ถูกรบกวนจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือระหว่างที่เครื่องกำลังจะลดระดับลงจอด ณ สนามบินเวินโจว ทำให้นักบินต้องบังคับให้เครื่องบินเชิดหัวขึ้นอีกครั้ง โดยในเวลาต่อมาพนักงานต้อนรับบนเครื่องก็พบว่าสัญญาณโทรศัพท์รบกวนดังกล่าวมาจากผู้โดยสารคนหนึ่งที่พยายามโทรศัพท์ออก
ด้านนักบินของเที่ยวบินดังกล่าวเปิดเผยผ่านไมโครบล็อกว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องได้พยายามบอกให้ผู้โดยสารคนดังกล่าวปิดเครื่องโทรศัพท์ ก่อนที่เครื่องจะลงจอดบนทางวิ่งหมายเลข 21 และเมื่อเครื่องลงจอดพนักงานก็ได้นำผู้โดยสารคนดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดี
กรณีดังกล่าวก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ของจีน โดยบางคนตั้งคำถามว่า ระบบไฟลต์โหมด (Flight Mode) บนโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนั้นยังส่งผลต่อระบบนำทางของเครื่องบินหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานด้านการบินพลเรือนของจีนก็อธิบายว่า แม้ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือจำนวนมากจะมี “ไฟลต์โหมด” แต่ผู้โดยสารก็จำเป็นที่จะต้องปิดโทรศัพท์ระหว่างการขึ้นและลงของเครื่องบินตามกฎการบิน เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนของสัญญาณโทรศัพท์กับระบบนำทางของเครื่องบิน
ในเดือนสิงหาคม 2554 ผู้โดยสารสตรีคนหนึ่งจากมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน ถูกเจ้าหน้าที่ปรับเป็นเงิน 1,500 หยวน หรือราว 7,500 บาท หลังจากเธอปฏิเสธที่จะปิดโทรศัพท์ของเธอระหว่างโดยสารบนเครื่องบินและยืนยันที่จะดูภาพยนตร์บนอุปกรณ์สื่อสารของเธอต่อไป โดยหลังจากเครื่องลงจอดเธอก็ถูกสายการบินส่งตัวต่อให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีเนื่องจากละเมิดกฎการบิน