เอเยนซี - เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ของจีน ในบริเวณเดิมที่เคยเกิดเหตุธรณีไหวเมื่อครั้ง 5 ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ด้านแผ่นดินไหววิทยาจากศูนย์เครือข่ายธรณีไหวของจีนและสถานีโทรทัศน์กลางซีซีทีวีจีนเผยว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่เมืองหยาอาน อำเภอลู่ซาน เมื่อเวลา 08.02 น.เช้าวันเสาร์ (20 เม.ย.) นี้
ศูนย์กลางแผ่นดินไหววัดความลึกได้ 13 กม. บริเวณละติจูด 30.3 องศาเหนือ และลองจิจูด 103.0 องศาตะวันออก แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวกระทบกระเทือนประชาชนในนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลด้วย ซึ่งห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 140 กม.
ประชาชนในเฉิงตู ซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารชั้น 13 เผยว่า ขณะเกิดเหตุแผ่นดินไหวรูสึกว่าอาคารสั่นประมาณ 20 วินาที เขาบอกว่าเห็นแผ่นกระเบื้องหลังคาหล่นลงไปกองกับพื้นบริเวณใกล้กับตัวอาคาร
นอกจากนั้นประชาชนในเมืองเล่อซาน และฉงชิ่งก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ขณะที่ในโลกออนไลน์เวยปั๋วจีนระบุว่า ประชาชนในเหมียนหยัง เต๋อหยัง เหมยซาน อี้ปิน กวงหยวน ลู่โจว ตลอดจนมณฑลใกล้เคียง กุ้ยโจว กานซู่ ส่านซี และอวิ๋นหนาน ต่างก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน
หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก วัดระดับได้ที่แรงสั่นสะเทือน 4 ริกเตอร์
ลำดับเหตุการณ์แผ่นดินไหว
09.20 น.
ชาวเน็ตได้อัปโหลดภาพอาคารโรงเรียนอนุบาลในหลูซานพังยุบ
90.30 น.
สถานีโทรทัศน์กลางซีซีทีวีจีนรายงานว่า สนามบินซวงหลิว แห่งนครเฉิงตูปิดทำการ
09.32 น.
นักข่าวก่วงโจวเดลีรายงานทางเวยปั๋วว่า ประชาชนในเวินชวน รู้สึกว่าแผ่นดินไหวมีความรุนแรงสูง อาคารต่างๆ สั่นสะท้านไปตามๆ กัน ทว่าประชาชนก็อยู่ในอาการสงบ
09.43 น.
หน่วยกู้ภัยได้ลงไปค้นหาผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านอู๋ซิ่ง อำเภอหลูซาน รัฐบาลสั่งตัดน้ำตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าว
09.53 น.
ห้ามการขับขี่ยวดยานพาหนะบริเวณทางด่วนเฉิงตู หยาอาน เพื่อความปลอดภัย
09.57 น.
พบผู้เสียชีวิต 2 ราย รายหนึ่งเป็นคนในพื้นที่ส่วนอีกคนเป็นคนจากหลงเหมิน
10.13 น
สนามบินซวงหลิว เฉิงตู รายงานว่า หลังจากสั่งปิดสนามบิน ส่งผลกระทบทำให้เที่ยวบินจำนวนมากต้องล่าช้า ขณะที่สำนักการรถไฟเฉิงตูก็ได้สั่งระงับรถไฟจำนวน 82 ขบวนแล้ว
10.26 น.
หลังจากแผ่นดินไหว 20 นาทีเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธในซื่อชวนได้ลงไปยังพื้นที่ พร้อมกับทหารจำนวน 1,200 นาย
รายงานข่าวล่าสุดจากพีเพิลเดลีรายงานว่า ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย เจ้าหน้าที่จีนยังคงทำงานติดตามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตต่อไป