กูเกิลควบคุมตลาดโทรศัพท์มือถือของจีนมากไปแล้ว

รอยเตอร์ - จีนเตือน ระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ของกูเกิล อิงก์ ( Google Inc) ครอบงำอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในประเทศมากเกินไปแล้ว

ในรายงานของทีมวิจัยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน ซึ่งสื่อมวลชนเผยแพร่เมื่อวันอังคาร ( 5 มี.ค.) ระบุว่า การวิจัยและพัฒนาระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือของประเทศจีนพึงพาระบบแอนดรอยด์มากจนเกินไป นอกจากนั้น แม้แอนดรอยด์เป็นระบบ ที่กูเกิลเปิดให้นำไปพัฒนาปรับแต่งสำหรับใช้กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ (open source) แต่ขณะเดียวกัน กูเกิลกลับยังคงควบคุมเทคโนโลยีหลัก และแนวทางของเทคโนโลยีไว้อย่างเข้มงวด

รายงานกล่าวด้วยว่า กูเกิลยังกีดกันบริษัทของจีนบางรายในการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตนเอง โดยใช้ข้อตกลงทางการค้าเป็นเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม จีนก็มีความสามารถ ที่จะสร้างระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือได้ด้วยตนเองเช่นกัน

บรรดานักวิเคราะห์มองรายงานฉบับนี้ ซึ่งได้ยกย่องบริษัทแดนมังกร เช่นไป่ตู้ อาลีบาบากรุ๊ป และหัวเหว่ยเทคโนโลยีส์ ที่สร้างระบบของตนเองขึ้นมาว่า อาจเป็นสัญญาณสำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือของจีนว่า อาจมีการตรากฎระเบียบ ที่ต่อต้านระบบแอนดรอยด์ในอนาคตก็เป็นได้

นอกจากนั้น นายดันแคน คล้าร์ก ประธานของบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีบีดีเอยังชี้ว่า ความสำเร็จของระบบแอนดรอยด์นี่เอง ที่ทำให้ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือของจีนเติบโตแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ประสบความล้มเหลว เพราะซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการไร้ประสิทธิภาพ

ปัจจุบันบริษัทซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่สุดในโลกก็ใช้ระบบแอนดรอยด์ เช่นเดียวกับบริษัทหัวเหว่ย และแซตทีอีคอร์ป

บริษัทวิจัยเทคโนโลยีไอดีซีประเมินว่า จีนแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะตลาดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่สุดในโลกในปี 2555 หรือร้อยละ 26.5 ของการขนส่งโทรศัพท์มือถือทั้งหมด

ในปี 2553 กูเกิลเริ่มย้ายฐานบางส่วนออกจากแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากปัญหาการเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดของรัฐบาลปักกิ่ง และกูเกิลถูกเจาะระบบคอมพิวเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยหลังจากนั้น ส่วนแบ่งตลาดการสืบค้นข้อมูลของกูเกิลในจีนก็ตกฮวบจากเกือบร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 15 เมื่อสิ้นปี 2555

ขณะที่ระบบแอนดรอยด์ของกูเกิลเป็นที่นิยมอย่างมากในจีน โดยในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว มีการใช้แอนดรอยด์ถึงร้อยละ 90 ของระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือทั้งหมดบนแดนมังกร ขณะที่มีการใช้ระบบไอโอเอส ( iOS) ของแอปเปิ้ลอิงก์เพียงร้อยละ 4.2 เท่านั้น