xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเน็ตจีน "อ้วก" 'ละครทีวีฉายซ้า' ทนดูเจิ้นหวน ตาย 3 หนในวันเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเยนซี - แม้กระแสละครทีวีรีเมคเมืองไทยกำลังมาแรง แต่คงไม่คับแน่นจนแทบระเบิดเหมือนเมืองจีน รีเมคไม่เท่าไหร่ แต่หลายเรื่องมีสถิติฉายซ้ำเวอรชั่นเก่าหลายพันครั้ง เช่น นางพญางูขาว 《新白娘子传奇》ดาบสะท้าน《亮剑》ไซอิ๋ว 《西游记》องค์หญิงกำมะลอ 《还珠格格》ฯลฯ ล้วนเป็นแขกประจำของช่วงปิดเทอมทั้งฤดูหนาวและภาคฤดูร้อน ล่าสุดการเห็นอันหลิงหรง (安陵容) ในเรื่องตำหนักใน เจิ้นหวน 《后宫  甄嬛传》ตายถึง 3 ครั้งในวันเดียวตลอดช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตบ่นขรมอยาก ‘อ้วก’ กระทั่งได้มีการจัดอันดับละครทีวีจีนที่ได้รับการฉายซ้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 10 อันดับด้วยกัน

ด้วยลักษณะพิเศษที่ช่วยให้ผู้ชมปลดปล่อยอารมณ์ (emotion release) เติมเต็มจินตนาการ (fantasy fulfillment) ตอกย้ำความรู้สึก (validation) และให้ความมั่นใจ (reassurance) แก่ผู้ชมว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ทำให้ ‘ละครโทรทัศน์’ เป็นสื่อบันเทิงที่ทรงอิทธิพลต่อสังคมอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการณีกระแสลุกฮือต่อว่าช่อง 3 และผู้ที่อาจเกี่ยวข้องกับการตัดจบละครเหนือเมฆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเชื้อกระตุ้นต่อต้าน ‘ระบอบทักษิณ’ ได้ดีกว่าการเดินสายเปิดหน้าผ่าความจริงโดยพรรคประชาธิปัตย์

อย่างไรก็ดี นอกจากเนื้อหาที่โดนใจแล้ว นักแสดงชั้นนำ เทคนิคถ่ายทำชั้นยอด และฉากที่ตื่นตา ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ‘ละครโทรทัศน์’ ได้รับความนิยม ซึ่งแน่นอนว่า ‘ทุน’ คือ ตัวแปรสำคัญต่อการรับประกันคุณภาพดังกล่าว ฉะนั้น การฉายซ้ำเรื่องเดิมซึ่งมีกระแสตอบรับดีแอยู่แล้ว ก็คือ รูปแบบธุรกิจที่ “ลงทุนครั้งเดียว ทำเงินหลายต่อ” ทำให้สถานีโทรทัศน์หลายช่องทำสัญญาผูกขาดการฉาย ‘ละครโทรทัศน์’ สุดฮิต เช่น สถานีโทรทัศน์เทียนจิน (天津卫视) ซื้อลิขสิทธิ์ฉายละครเรื่องกระบี่พิชิตมาร《亮剑》ภายในเวลา 5 ปี สถานีโทรทัศน์หูหนาน (湖南卫视) จดลิขสิทธิ์ผูกขาดการฉายละครเรื่ององค์หญิงกำมะลอ 《还珠格格》 เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้ กระแส “ของเก่า เล่าใหม่” จึงคับแน่นจนแทบระเบิดที่เมืองจีน เช่น สถานีโทรทัศน์เทียนจิน ฉายซ้ำกระบี่พิชิตมาร《亮剑》มากกว่า 3,000 ครั้ง ภายในเวลา 5 ปี สถานีโทรทัศน์หูหนาน ฉายซ้ำองค์หญิงกำมะลอ 《还珠格格》 13 ครั้งภายในเวลาเพียงปีเดียว และนับแต่ผลิตเวอร์ชั่นใหม่ปี 1986 ไซอิ๋ว ศึกเทพอสูรสะท้านฟ้า 《西游记》 มีการฉายซ้ำมากกว่า 2,000 ครั้งแล้ว กระทั่งล่าสุดการเห็นอันหลิงหรง (安陵容) ในเรื่องตำหนักใน เจิ้นหวน 《后宫  甄嬛传》ตายถึง 3 ครั้งในวันเดียวตลอดช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ทำให้ชาวเน็ตบ่นขรมอยาก ‘อ้วก’

ทั้งนี้ มีการจัดอันดับละครทีวีจีนที่ได้รับการฉายซ้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 10 อันดับ ดังนี้

อันดับ 1 เจิ้นหวน นางพญาวังหลัง 《后宫  甄嬛传》

อันดับ 2 กระบี่พิชิตมาร 《亮剑》

อันดับ 3 องค์หญิงกำมะลอ 《还珠格格》

อันดับ 4 ในบ้านมีลูกชายลูกสาว 《家有儿女》

อันดับ 5 ราชายุทธจักร 《武林外传》

อันดับ 6 ไซอิ๋ว ศึกเทพอสูรสะท้านฟ้า《西游记》

อันดับ 7 นางพญางูขาว《新白娘子传奇》

อันดับ 8 มังกรหยก ภาค 2 หรือ จอมยุทธเคียงคู่ เทพอินทรี《神雕侠侣》

อันดับ 9 ละครเกาหลี สะดุดรักที่พักใจ《浪漫满屋》

อันดับ 10 แกะหรรษากับหมาป่าเจ้าเล่ห์《喜羊羊与灰太狼》

สำหรับการรีเมคหรือฉายซ้ำ ‘ละครโทรทัศน์’ เรื่องเก่า มุมหนึ่งอาจมองได้ว่า เป็นความสำเร็จของคณะผู้จัด ที่สามารถผลิตสร้างละครที่เป็นอมตะได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างต่อเนื่อง จะด้วยเนื้อหาของบทละครเรื่องนั้นมีความเกี่ยวพันกับการสร้างชาติ ปลุกเร้าวัฒนธรรม หรือตอบสนองสังคมด้วยมิติใดก็ตาม แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สะท้อนปัญหาสภาพซบเซาของวงการ ‘ละครโทรทัศน์’ ยุคนั้นๆ ที่ไร้ปัญญาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ให้มีคุณภาพเทียบเท่า ‘ของเก่า’ ได้ อันอาจเกิดจากข้อจำกัดหลายประการ เช่น สถานีโทรทัศน์มุ่งทำกำไรอย่างง่ายมากเกินไป นักแสดงชั้นนำโก่งค่าตัว หรือโลกวัตถุนิยมไม่เอื้อต่อการเขียนบทละครชั้นยอดที่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน เป็นต้น

จากข้อมูลสถิติการผลิต ‘ละครโทรทัศน์’ ของจีนพบว่า นับแต่ปี 2003 ที่มีการทุบสถิติ 14,000 - 15,000 ตอนต่อปีนั้น ก็ได้มีการเพิ่มขึ้นอย่างน้อยพันตอนต่อเนื่องทุกปี แต่กลับมีการฉายละครใหม่เพียง 8,000 ตอนต่อปี ละครใหม่ที่ค้างสต๊อกจำนวนมากเช่นนี้ อาจอนุมานได้ว่านอกจาก‘ของเก่า’จะมากินที่ ‘ของใหม่’ แล้ว ‘ของใหม่’ คุณภาพยังสู้ ‘ของเก่า’ ไม่ได้อีกด้วย

จางไห่หรู (张海如) นักศึกษาปริญญาโท คณะภาพยนตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยเป่ยจิง (ปักกิ่ง) และผู้ช่วยผู้กำกับหลายเรื่อง ให้ความเห็นว่า “ละครที่น่าดูจริงๆ สะท้อนความคิดได้ลึกซึ้งจริงๆ มีคุณค่าทางศิลปะจริงๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนสูง ในทางกลับกันมีผู้จัดชั้นนำหลายกลุ่มผลิตละครบ้านๆ แต่กลับเรียกราคาสูง ทำให้สถานีโทรทัศน์ยอมที่จะฉาย ‘ของเก่า’ ที่พอได้กำไรบ้าง แทนที่จะเสี่ยงลงทุนสูงกับละครที่ไม่แน่ใจว่าดังหรือเปล่า”

นักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยเป่ยจิง (ปักกิ่ง) รายหนึ่ง มองว่า “เหตุการณ์ที่เผชิญด้วยกัน ทำให้ผู้คนในแต่ละยุคสมัยมีลักษณะเฉพาะหรือจิตสำนึกร่วมที่แตกต่างกันออกไป หนุ่มสาวรุ่น 80’ หรือ 90’ ก็มีเรื่องราวของตัวเองที่ไม่เหมือนรุ่นก่อนๆ แต่ที่ต้องจำใจดู ‘ของเก่า’ กัน ก็เพราะยังไม่มี ‘ของใหม่’ ที่โดนใจเท่าไหร่”

หยางเต๋าก่าน (杨导感) อายุ 83 ปี เกษียณอายุแล้ว อ่านหนังสือและดูทีวีเป็นงานอดิเรก ปรารภว่า “เดี๋ยวนี้ละครทีวีที่มีคุณภาพน้อยลงไปทุกที อย่างเรื่องเจิ้นหวน นางพญาวังหลัง 《甄嬛传》ที่พอดูได้ แต่เนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก็ไม่มีความชัดเจน ปัญหาที่ทำให้กังวลใจ ก็คือ เดี๋ยวนี้ถ้าอยากให้ละครเรื่องไหนดัง ก็สักแต่ว่าเอาดาราแถวหน้ามาแสดง แต่เนื้อหางั้นๆ เน้นการค้ามากเกินไป ไม่เหมือนคนรุ่นเก่าที่คิดว่า ‘ละคร’ คือ ‘ศิลปะ’ อย่างหนึ่ง” 

  
  
  
กำลังโหลดความคิดเห็น