เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์/ASTVผู้จัดการ – “สี จิ้นผิง” ยืนยันกับ “เหลียง เจิ้นอิง” จะไม่เปลี่ยนนโยบายกับ ฮ่องกง-มาเก๊าแม้เปลี่ยนผู้นำ ยันให้การสนับสนุนรัฐบาลของนายเหลียงเต็มที่ สื่อคาด “จัง เต๋อเจียง-หลี่ หยวนเฉา” น่าจะเข้ามารับไม้ต่อดูแลกิจการเกี่ยวกับฮ่องกง-มาเก๊า
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ธ.ค. นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคนใหม่แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวให้การสนับสนุนกับภารกิจของนายเหลียง เจิ้นอิง ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ที่เดินทางมาเยือนนครปักกิ่งเป็นครั้งแรก หลังจากเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ฮ่องกงตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2555
ในการพบปะระหว่างทั้งสองคน ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแผ่นดินใหญ่ที่ดูแลกิจการของฮ่องกงเข้าร่วมด้วย โดยสีกล่าวกับเหลียงและคณะผู้บริการของฮ่องกงว่าเป็นผู้บริหารที่ก้าวหน้า มีความพยายาม เน้นการปฏิบัติ และสามารถฝากความหวังไว้ได้
“คุณมีภาระหน้าที่หนักหนา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย รัฐบาลกลางให้การรับรองในหน้าที่ของคุณและจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในการปกครองที่สอดคล้องกับหลักกฎหมาย” สี จิ้นผิงกล่าว
“ผมบอกกับคุณได้เลยว่า นโยบายของรัฐบาลกลางต่อการปกครองฮ่องกงและมาเก๊าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง” สีกล่าวเสริม เมื่อมีการสอบถามว่า จากการเปลี่ยนผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนจะมีผลกระทบต่อนโยบายของจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีต่อฮ่องกงและมาเก๊าหรือไม่ และกล่าวต่อว่า กุญแจสำคัญของเรื่องนี้คือความเข้าใจในภาพรวม และถูกต้องต่อการดำเนินนโยบายหนึ่งประเทศ สองระบบ รวมถึงการให้ความเคารพและปกป้องกฎหมายพื้นฐาน
การพบปะระหว่างสี จิ้นผิง และเหลียง เจิ้นอิงมีขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องของชาวฮ่องกงให้เหลียงลงจากตำแหน่ง และการล่ารายชื่อของสมาชิกสภานิติบัญญัติกลุ่มแพน เดโมเครติกในฮ่องกงเพื่อถอดถอนเหลียงออกจากตำแหน่งจากปัญหาสิ่งก่อสร้างที่ผิดกฎหมายในบ้าน
อย่างไรก็ตาม ในการพบปะครั้งนี้ยังเผยถึงรายชื่อผู้นำจากแผ่นดินใหญ่ที่จะเข้ามาดูแลกิจการเกี่ยวกับฮ่องกงและมาเก๊าในอนาคตด้วย โดยบุคคลที่ถูกจับตามองก็คือ นายจัง เต๋อเจียง อดีตเลขาธิการพรรคประจำมณฑลกวางตุ้ง ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น 1 ใน 7 สมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองชุดล่าสุด ซึ่งในการพบปะนั่งติดกับสี นอกจากนี้ยังมี นายหลี่ หยวนเฉา สมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง และผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้ขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีจีนในเดือนมีนาคม 2556 และนายเลี่ยว ฮุย ที่ดูแลสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าแห่งสำนักนายกรัฐมนตรีจีนมานานกว่าทศวรรษ
ขณะที่อดีตเลขานุการของนายเลี่ยว ฮุย คือ นายจัง เสี่ยวหมิงก็เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกิจการแห่งรัฐบาลกลางประจำฮ่องกงก็เข้าร่วมในการพบปะครั้งนี้เช่นกัน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อความที่นายสีส่งถึงนายเหลียงนั้นมีการรุกคืบมากขึ้นกว่าเมื่อครั้ง นายหู จิ่นเทา กล่าวกับนายต่ง เจี้ยนหัว อดีตผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ในปี 2547 (ค.ศ.2004) โดยครั้งนั้นนายหูกล่าวว่า ฮ่องกงจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจกับสูตร “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อย่างถูกต้อง
ขณะเดียวกันนายเหลียงก็กล่าวขอบคุณรัฐบาลกลางจีนที่ให้การสนับสนุน และเสริมว่า พิมพ์เขียวของการพัฒนาประเทศที่เผยแพร่ออกมาระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ในเดือนพฤศจิกายน นั้นช่วยสร้างแรงกระตุ้นได้อย่างมาก
ทั้งนี้ค่อนข้างจะเป็นที่แน่ชัดว่า ในเดือนมีนาคม 2556 นายจัง เต๋อเจียงจะเข้ามาเป็นหัวหน้าใหญ่ผู้ดูแลกิจการเกี่ยวกับฮ่องกงและมาเก๊า ขณะที่งานในระดับปฏิบัติการจะมีนายหลี่ หยวนเฉาเป็นผู้ดูแล