กลุ่มสื่อจีนรายงานเครื่องบินลาดตระเวน B-3837 จากหน่วยตรวจการณ์สมุทรของจีน ได้มาถึงน่านฟ้าเหนือหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ในทะเลตะวันออก เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันพฤหัสฯ (13 ธ.ค.) เพื่อปฏิบัติการลาดตระเวนน่านน้ำบริเวณหมู่เกาะเตี้ยว์อี๋ว์ ร่วมกับกองเรือลาดตระเวน 4 ลำ จากแถลงการณ์ของสำนักงานแห่งรัฐเพื่อการบริหารมหาสมุทร (เอสโอเอ) ของจีน
แถลงการณ์ของเอสโอเอ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ขององค์กรในวันพฤหัสฯ ระบุว่า เรือลาดตระเวนไห่เจี้ยน 50, 46, 66 และ 137 กำลังลาดตระเวนบริเวณใกล้หมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ขณะที่ B－3837 มาถึงน่านฟ้าเหนือกองเรือ
สำหรับเครื่องบิน B－3837 เป็นเครื่องบินปีกตรึง แบบ Y－12Ⅳ ของเอสโอเอ ภายในเครื่องติดตั้งเครื่องตรวจจับ photoelectric platform, infrared/uv scanner, กล้องถ่ายภาพแบบ Imaging spectroscopy และอุปกรณ์ตรวจสอบที่ทันสมัยอื่นๆ ไม่กี่ปีมานี้ กองทัพจีนยังได้นำอุปกรณ์ทันสมัย อย่าง ระบบเรดาร์ ALS50 และกล้องติดตั้งอากาศยาน ADS80
กลุ่มสื่อจีนรายงานด้วยว่า เรือลาดตระเวนของหน่วยยามฝั่งญี่ปุนพบเครื่องบินจีน บริเวณด้านใต้ของหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ และกองกำลังปกป้องตัวแห่งญี่ปุนก็ได้สั่งการเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 จำนวน 8 ลำออกสกัดในทันที
เว็บไซต์ข่าวญี่ปุ่นอ้างแหล่งข่าวกองกำลังปกป้องตัวเอง ระบุว่า เครื่องบินเล็กลำดังกล่าวซึ่งเป็นของหน่วยตรวจการณ์คาบสมุทรจีน มาถึงน่านฟ้าบริเวณหมู่เกาะเตี้ยวอี๋ว์ เวลา 11.06 น. เมื่อเรือลาดตระเวนญี่ปุ่นในบริเวณนั้นพบเครื่องบินลาดตระเวนจีน โดยขณะนั้นเครื่องบินจีนอยู่ห่างจากเกาะเตี้ยว์อี๋ว์ 15 กิโลเมตร กองกำลังปกป้องตัวเองแห่งญี่ปุ่นก็ได้ระดมเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 เข้ามาสกัด
พลเอก ชิเกรุ อิวาซากิ (General Shigeru Iwasaki) ประธานเสนาธิการร่วมแห่งกองกำลังปกป้องตัวเองแห่งญี่ปุ่น (Chief of Joint Staff of Japan Self Defense Force) เปิดเผยในที่ประชุมข่าววันพฤหัสฯ (13 ธ.ค.) ว่า ก่อนที่หน้าเครื่องบินจีนมาถึงน่านฟ้าเหนือเกาะเตี้ยวอี๋ว์นั้น เรดาร์ของกองกำลังปกป้องตัวเองไม่สามารถตรวจจับข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างทันการณ์
