เอเอฟพี - หลายเมืองบนแดนมังกรติดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในเอเชียสำหรับชาวต่างชาติ สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเงินหยวน ที่แข็งค่าขึ้น
จากผลสำรวจระดับภูมิภาคของอีซีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล (ECA International) ซึ่งเป็นบริษัทด้านทรัพยากรมนุษย์ ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (12 ธ.ค.) ระบุว่า ในบรรดาเมือง ซึ่งมีค่าครองชีพแพงมากที่สุด 50 แห่งในเอเชียนั้น มี 16 แห่ง หรือร้อยละ 32 อยู่ในจีน
กรุงปักกิ่งมีค่าครองชีพสูงที่สุดเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย จากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว โดยเป็นรอง 4 เมืองในญี่ปุ่น และกรุงโซลตามมาเป็นอันดับที่ 6
หากเปรียบเทียบกันในระดับโลกแล้ว กรุงปักกิ่งติดอันดับที่ 22 ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 35 ในปีก่อน
ส่วนนครเซี่ยงไฮ้ติดอันดับ 7 ในเอเชีย จากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว โดยเมืองศูนย์กลางการเงินแห่งนี้มีค่าครองชีพแพงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 26 ของโลก พุ่งพรวดจากอันดับที่ 41 เมื่อปีก่อน
อีซีเอดำเนินการสำรวจปีละ 2 ครั้ง โดยวัดจากตะกร้าสินค้าทั่วไป ซึ่งชาวต่างชาติซื้อในสถานที่กว่า 400 แห่งทั่วโลก เช่น นม ผัก เสื้อผ้า และอาหาร แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย สิ่งสาธารณูปโภค รถยนต์ และค่าเล่าเรียน
ลี เควน ผู้อำนวยการอีซีเอประจำภูมิภาคระบุว่า ค่าใช้จ่ายสินค้าและบริการในจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 ในปีนี้ ซึ่งยังต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ 6.5ในภูมิภาค แต่ก็ถือว่าสูงมาก หากเทียบกับสิงค์โปร์ ที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 และอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของจีน โดยบริษัทผู้ประกอบการอาจต้องคิดหลายตลบในการเข้ามาตั้งสำนักงานบนแดนมังกร
ทั้งนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า ฮ่องกงติดอันดับเมืองค่าครองชีพแพงที่สุดอันดับ 9 ในเอเชีย ขณะที่เมืองบนแผ่นดินใหญ่ที่ติด 50 อันดับแรกได้แก่กว่างโจว เซินเจิ้น เสิ่นหยาง เทียนจิน ชิงเต่า ต้าเหลียน ฉงชิ่ง ซูโจว เฉิงตู อู๋ฮั่น เซียะเหมิน หนันจิง และซีอาน
ส่วนกรุงโตเกียวยังครองอันดับเมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในเอเชียและในโลกสำหรับชาวต่างชาติ และกรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 28 ในเอเชีย ตามด้วยกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่อันดับ 29 กรุงมะนิลาอันดับที่ 32 และกรุงฮานอยอันดับที่ 36