เอเอฟพี - นีล อาร์มสตรองนักบินอวกาศของสหรัฐฯ เป็นมนุษย์คนแรก ที่เหยียบดวงจันทร์เมื่อปี 2512 นั่นคือสุดยอดแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และหลายคนมองความก้าวหน้านั้นว่า เป็นศตวรรษแห่งชาวอเมริกันเลยทีเดียว
ทว่ามีคำถามหนึ่งเกิดขึ้นว่า แล้วคนชาติใดจะเป็นมนุษย์รายต่อไปที่น่าจะได้ไปย่ำบนดาวบริวารดวงเดียวของโลกนี้ คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญก็คือ น่าจะเป็นคนจีน
ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ตัดลดงบประมาณโครงการสำรวจอวกาศ ที่มีมนุษย์เดินทางไปด้วย ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักจากอาร์มสตรอง ที่เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ (25 ส.ค.) แต่ในเวลาเดียวกันนี้ชาติในเอเชียกลับเดินหน้าขยายโครงการสำรวจอวกาศกันอย่างเต็มที่
จีน ญี่ปุ่น และอินเดียต่างก็มีโครงการอวกาศของตน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ อินเดีย ซึ่งตั้งเป้าส่งมนุษย์ไปเยือนอวกาศครั้งแรกในปี 2559 นั้น ยังได้เปิดเผยโครงการ ที่จะส่งยานสำรวจไปโคจรรอบดาวอังคาร ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นชาติหนึ่ง ที่เข้าร่วมโครงการสถานีอวกาศนานาชาติ และส่งยานสำรวจไปดวงจันทร์ลำแรกเมื่อปี 2550
อย่างไรก็ตาม จีนมีภาษีมากที่สุด ที่จะได้ส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นชาติถัดไปจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติเดียว ที่ทำได้ และส่งมนุษย์อวกาศไปครั้งล่าสุดเมื่อปี 2515 เนื่องจากจีนประสบความคืบหน้าด้านโครงการอวกาศมาเป็นลำดับ
จีนเริ่มดำเนินโครงการอวกาศ ที่ส่งมนุษย์ไปด้วยเมื่อปี 2542 จากนั้น โครงการก็พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถส่งมนุษย์ไปอวกาศได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2546 และประสบความสำเร็จในการส่งมนุษย์ออกย่ำอวกาศได้เมื่อปี 2551
มาในปีนี้ พญามังกรก็ก้าวรุดหน้าไปถึงขั้นสามารถเชื่อมต่อยาน 2 ลำเข้าด้วยกันในห้วงอวกาศ โดยมีนักบินอวกาศเป็นผู้บังคับ อันเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญสำหรับการสร้างสถานีอวกาศของจีน และในภารกิจการเชื่อมต่อนี้มีนักบินอวกาศหญิงคนแรกของจีนเดินทางไปด้วย
จีนระบุว่า กำลังทำงาน เพื่อส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ให้ได้ แต่มิได้ระบุกรอบเวลา อย่างไรก็ตาม จีนจะพยายามส่งยานสำรวจไปลงบนดวงจันทร์ให้ได้เป็นครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 และส่งสัญญาณการสำรวจพื้นผิวของดวงจันทร์กลับมายังโลก
“ ไม่มีใครทราบได้ว่า นักบินอวกาศ ที่จะเหยียบดวงจันทร์คณะต่อไปจะมาจากไหน แต่ผมคาดว่า มีโอกาสดีทีเดียว ที่จะเป็นชาวจีน” นายมอร์ริส โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศของออสเตรเลียระบุ
“โครงการอวกาศของจีนกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ถ้ายังคงรักษาจังหวะเช่นนี้ต่อไปได้ จีนก็จะพัฒนาความสามารถ ที่จะไปถึงดวงจันทร์ได้ในราวปี 2573” นายโจนส์คาดคะเน
ทั้งนี้ โครงการอวกาศของจีนยังห่างชั้นจากสหรัฐฯ อยู่มาก หากดูจากความสำเร็จในการเชื่อมต่อยานของจีน ซึ่งสหรัฐฯ มีความช่ำชองมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 แล้ว จีนถือว่าโครงการอวกาศของตนเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการผงาดในโลก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญต่างระบุว่า ความภาคภูมิใจของชาติเป็นเพียงแรงกระตุ้นหนึ่งเท่านั้นสำหรับความทะเยอทะยานในด้านโครงการอวกาศของจีน
“ การเดินทางไปดวงจันทร์ย่อมเกี่ยวข้องกับเรื่องของเกียรติยศชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่มันก็มีเรื่องของวิทยาศาสตร์ด้วย”นายโจนส์ระบุ
“ แนวโน้มใหม่ ที่อาจเกิดขึ้นก็คือการทำเหมืองแร่บนดวงจันทร์ เพื่อทำเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ จีนมิได้ปิดบังเป็นความลับเรื่องที่จีนสนใจความเป็นไปได้นี้เลย” เขากล่าว