เซาท์ไชน่ามอร์นิวโพสต์ - จีนเลื่อนยศนายทหารและนายตำรวจระดับสูง ซึ่งมีทั้งที่เป็นไปตามโผและพลิกโผ สร้างความแปลกใจแก่นักสังเกตการณ์ไม่น้อย
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารแห่งชาติ (Central Military Commission) มีคำสั่งเลื่อนยศนายทหารและนายตำรวจในกองทัพปลดแอกประชาชนและกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน ( People’s Armed Police) จากยศนายพลโทเป็นนายพลเอก 6 นาย โดยรองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมาธิการทหารแห่งชาติเป็นผู้ประกาศการแต่งตั้งเมื่อวันจันทร์ (30 ก.ค.)
การเลื่อนยศนายทหารและนายตำรวจทั้ง 6 นายเป็นไปตามโผ อาทิ นายพลโทหวัง เจี้ยนผิง วัย 59 ปี ตำแหน่งผู้บัญชาการ PAP และนายพลโทสีว์ เหยาหยวน วัย 60 ปี ตำแหน่งผู้ตรวจการทางการเมือง (political commissar) ประจำPAP ได้เลื่อนยศเป็นนายพลเอก
อย่างไรก็ตาม มีนายพลบางคนไม่ได้รับการเลื่อนยศ เช่น นายพลโทหลิว ฟู่เหลียน วัย 60 ปี ตำแหน่งผู้ตรวจการทางการเมืองประจำกองบัญชาการทหารกรุงปักกิ่ง สร้างความแปลกใจแก่นักสังเกตการณ์ เนื่องจากตามประเพณี ที่ปฏิบัติกันมา การเลื่อนยศจะพิจารณาจากอายุการปฏิบัติหน้าที่ และการดำรงชั้นยศ ซึ่งนายพลโทหลิวมีคุณสมบัติครบทวน และเป็นที่คาดหมายกันว่าจะได้รับการเลื่อนยศ
ดาวรุ่งพุ่งแรงของกองทัพ ที่พลาดติดยศนายพลเอกอีกคน คือนายพลโท สีว์ เฟิงหลิน วัย 59 ปี ตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพภาคกว่างโจว ซึ่งเป็นผู้บัญชาการ ที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดากองทัพภาคทั้ง 7 ของจีน
นักสังเกตการณ์มองว่าการไม่มีชื่อของนายพลโทสีว์ เฟิงหลินอยู่ในบัญชีคราวนี้ อาจเป็นผลมาจากผู้นำกองทัพจีนต้องการปรับสมดุลในหมู่ทหารฝ่ายต่าง ๆ ก็เป็นได้
ขณะเดียวกันการเลื่อนยศครั้งนี้ ยังได้นายพลเอกใหม่ ซึ่งเป็นคนในตระกูลใหญ่อีกหนึ่งคนคือนายพลเอกหลิว หยาโจว บุตรเขยของอดีตประธานาธิบดีหลี่ เซียนเหนียน โดยพลเอกหลิวผู้นี้มองกันว่า เป็นนายทหาร ที่มีใจคอกว้างขวาง และเปิดเผยตรงไปตรงมา