เอเยนซี – วันอังคาร(24 ก.ค.) เขื่อนสามโตรก ได้รองรับปริมาณน้ำที่มากและไหลแรงที่สุด ตั้งแต่เปิดใช้เขื่อน ขณะที่กำลังของเขื่อนสามารถลดปริมาณและอัตราความเร็วของน้ำไหลผ่านไปได้เกือบครึ่ง
ศูนย์ควบคุมอุทกภัยและภัยแล้ง แม่น้ำแยงซี ระบุว่า วันอังคารที่ผ่านมา (24 ก.ค.) อัตราการเคลื่อนที่ของน้ำขึ้นไปอยู่ระดับ 71,200 คิวบิกเมตรต่อวินาที โดยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากพายุฝนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเอ่อสูงขึ้น
ในการเตรียมการรับมือน้ำนั้น ทางการท้องถิ่นหูเป่ย และหูหนาน ได้แจ้งสถานะเตือนภัยไว้ที่ระดับสาม พร้อมกับจัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 36,000 คน เพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำ และภัยน้ำท่วม
รายงานข่าวกล่าวว่า ทางการได้เตรียมกำลังคนเกือบ 30,000 คน เพื่อป้องกันน้ำท่วมใหญ่สุดในรอบ 9 ปี ตามบริเวณสองฝั่งแม่น้ำแยงซี หลังประกาศว่า สองฝั่งน้ำใต้เขื่อนระยะทางกว่า 620 กิโลเมตร มีความเสี่ยงกับอุทกภัย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โคลนและดินถล่ม อีกทั้งภัยพิบัติอื่นๆ
ไชน่า นิวส์เซอร์วิส รายงานว่า เมื่อวันอังคาร เรือกว่า 1,000 ลำ ต้องจอดรออยู่รอบบริเวณเขื่อน และประชาชนในฉงชิ่ง 66,000 คน ที่อาศัยอยู่เหนือเขื่อนฯ ถูกแจ้งอพยพออกจากพื้นที่ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหาย
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่เคลื่อนสู่เขื่อนฯ เพิ่มความเร็วมาอยู่ที่ระดับ 71,200 คิวบิกเมตรต่อวินาที ไหลแรงกว่าเมื่อครั้งที่เกิดอุทกภัยแยงซีในปี พ.ศ. 2497 และ 2541 แต่ศูนย์ควบคุมฯ รายงานว่า ประสิทธิภาพรับน้ำของเขื่อนสามโตรกได้ลดความเร็วของน้ำหลังเขื่อนเหลือเพียง 43,000 คิวบิกเมตร ต่อวินาที
แม่น้ำแยงซีมีความยาว 3,219 กิโลเมตร ไหลจากที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ผ่านเมืองต่างๆ ในจีนไปยังทะเลฝั่งตะวันออก และเคยมีปริมาณน้ำหลากเอ่อล้นจนเกิดอุทกภัยใหญ่สองครั้ง โดยในปี พ.ศ. 2497 มีผู้เสียชีวิต 33,000 คน และในปี 2541 มีผู้เสียชีวิต 1,562 ขณะที่ปริมาณน้ำในปีนี้คาดว่าจะมากที่สุดกว่าทั้งสองครั้งที่ผ่านมา