โกลบอลไทมส์ - จีนไฟเขียวเลสเบี้ยนบริจาคโลหิตได้แล้ว หลังจากมีการประกาศห้ามมาตั้งแต่ปี 2541 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา
แม้ชุมชนชาวเกย์พลอยดีอกดีใจไปด้วย แต่เมื่อเหลียวมองตัวเองก็พบว่า การบริจาคเลือดของชาวเกย์แดนมังกรยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
ภายใต้ข้อกำหนดในการคัดเลือกผู้บริจาคเลือดและส่วนประกอบทั้งหมด (Whole Blood and Component Donor Selection Requirements) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจีนประกาศในปีที่แล้ว ได้มีการแก้ไขบทบัญญัติ ซึ่งห้ามพวกรักร่วมเพศบริจาคโลหิต โดยในปัจจุบันข้อกำหนดในการคัดเลือกผู้บริจาคมิได้ระบุเรื่องการเป็นโฮโมเซ็กช่วล เพียงแต่กำหนดว่า ยังคงห้ามชาย ซึ่งมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ บริจาคโลหิต
เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งของศูนย์โลหิตกาชาดปักกิ่งยืนยันเมื่อวันจันทร์ (2 ก.ค.) ว่า ทางศูนย์และหน่วยโลหิตเคลื่อนที่ของกรุงปักกิ่งได้รับการประกาศแจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว
ด้านซีอัน ซึ่งเป็นชื่อเรียกเล่น ๆ ของผู้อำนวยการ “Common Language” ซึ่งเป็นเอ็นจีโอ ที่ทุ่มเททำงาน เพื่อให้การสนับสนุนพวกเลสเบี้ยนและพวกไบเซ็กช่วลส์ ปรบมือแสดงความยินดีกับการแก้ไขบทบัญญัตินี้ และเตรียมประสานงานกับกลุ่มสมาชิกในการไปบริจาคโลหิต
ก่อนหน้านี้ ซีอันไม่เคยรู้มาก่อนว่า มีการห้ามเลสเบี้ยนบริจาคเลือด จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนเมื่อปี 2551 มีผู้บอกกับซีอันว่า เธอบริจาคเลือดไม่ได้
ผู้อำนวยการของเอ็นจีโอรายนี้ระบุว่า นโยบาย ซึ่งมิได้เอ่ยเรื่องการเป็นพวกรักร่วมเพศนับว่ามีความเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะโรคเอดส์มิได้มีสาเหตุจากการเป็นพวกรักร่วมเพศ แต่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์อย่างไม่ถูกต้อง
“มันยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมีศักดิ์ศรีของเรา และลบล้างการกีดกันการมีโอกาสได้บริจาคโลหิต” เธอระบุ
หลี่ อิ้นเหอ นักเพศวิทยาผู้มีชื่อเสียงกล่าวว่า จีนเรียนรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์และการเป็นโฮโมเซ็กช่วลไปพร้อม ๆ กันในช่วงปี 2523-2533
“ประเทศนี้เกิดความเชื่อกันอย่างง่าย ๆ ว่า การเป็นพวกรักร่วมเพศมีค่าเท่ากับโรคเอดส์” หลี่กล่าว
การขาดความเข้าใจอย่างเพียงพอเกี่ยวกับสิ่งทั้งสองนี้เองจึงทำให้พวกโฮโมเซ็กช่วลส์ถูกขึ้นบัญชีอยู่ในกลุ่มผู้ไม่สามารถบริจาคโลหิตได้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ แต่การแก้ไขบทบัญญัตินี้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลี่ตั้งข้อสังเกตว่า สำหรับพวกเกย์แล้ว ยังคงมีความเชื่อกันว่า เป็นกลุ่ม ที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่โรคเอดส์ แต่พวกเลสเบี้ยนเป็นกลุ่ม ที่มีความเสี่ยงต่ำ
ทั้งนี้ มีการพบผู้ป่วยโรคเอดส์รายแรกบนแดนมังกรเมื่อปี 2528 เป็นชาวอาร์เจนติน่า ซึ่งเสียชีวิตระหว่างมาเที่ยวจีน
ฮุ่ยจิน เลสเบี้ยน วัย 27 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งเห็นว่า การแก้ไขยังไม่สมบูรณ์ และพวกเกย์ควรมีสิทธิ์บริจาคเลือดได้เช่นกัน
“ ในประเทศตะวันตก ผู้ชายที่เป็นเกย์สามารถบริจาคเลือดได้ ถ้าเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง” เธอเล่า
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ฉบับเดือนธ.ค. 2554 รายงานว่า สำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอสั่งห้ามชาย ซึ่งร่วมหลับนอนกับชายด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมาบริจาคเลือด
ในปี 2553 เอฟดีเอได้พิจารณาทบทวนนโยบายดังกล่าว และมีความเห็นให้คงไว้ต่อไป แต่ในอังกฤษนั้นอนุญาตให้ชายเกย์สามารถบริจาคเลือดได้ตั้งแต่เดือนพ.ย 2554 เป็นต้นไป แต่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องงดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 12 เดือน