เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งปฏิบัติต่อเด็กทารกอย่างไร้จรรยาบรรณในระหว่างการฝึกงาน ณ โรงพยาบาลเด็ก เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง แถมยังถ่ายภาพโพสต์ขึ้นออนไลน์ ชาวเน็ตเห็นแล้วควันออกหูเรียกร้องให้มีการลงโทษทันที
“เด็กน้อยเอ๋ย ยังอยู่หรือตายจ๊ะ เหมือนว่าหนูจะแกล้งตายอยู่น่ะ ฉันอยากจะขำตาย” นางสาวเซียว ซื่ออี้ว์ นักศึกษาพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์จีนมณฑลเจ้อเจียง เขียนข้อความดังกล่าวลงไมโครบล็อกของเธอ เมื่อเดือนเม.ย.
นอกเหนือจากคำเย้ยหยันเหล่านี้แล้ว ยังมีภาพเด็กทารกน้อยสองคนที่ถูกเธอเอานิ้วเท้าแหย่ไปทางด้านหลังค่อย ๆ ประคองขึ้นมา แต่ส่วนคอทารกไร้สิ่งรองรับจึงโยกเยกไปมา
การไต่สวนในเวลาต่อมาเผยว่า ภาพดังกล่าวถ่ายขึ้นเมื่อเซียวเป็นนักศึกษาฝึกงานในโรงพยาบาลเด็ก ของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง
ภาพหนึ่งเป็นเด็กน้อยกำลังคุกเข่า ขณะที่เซียวใช้มือจับแขนเสื้อของเด็ก ส่วนศีรษะของทารกก็โยกไปอีกฝั่งหนึ่ง (ตามภาพ) อีกภาพหนึ่งเด็กน้อยถูกหยิกในขณะที่ศีรษะก็โยกเยกไปมา เพราะขาดสิ่งค้ำจุนทำให้หัวตกคอพับไปทางด้านหลัง
เซียวเขียนตอบความเห็นผู้วิจารณ์เธอในไมโครบล็อกว่า “ฉันเล่นกับเด็ก มันเป็นสิทธิ์ของฉัน เพราะฉันต้องเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้เด็กพวกนี้อยู่แล้ว ฉันมีสิทธิ์ที่จะเล่นอย่างไรกับพวกเขาก็ได้”
ส่วนในอีกความเห็นหนึ่ง นางสาวเซียวก็ไปเขียนตอบว่า “มันเป็นเรื่องน่าเบื่อไม่ท้าทายที่ต้องฝึกงานด้านกุมารเวชศาสตร์ เด็กทารกพวกนี้ไม่เห็นลุกขึ้นมาสู้กันบ้างเลย มันก็เลยน่าจับแต่งตัวเป็นหมูดูสิว่าจะนอนกันต่อได้สักกี่น้ำ” จากนั้นก็มีภาพเด็กทารกถูกติดจมูกเป็นหมูและบริเวณคิ้วก็แปะกระดาษทำให้ดูเหมือนหมูจริง ๆ
กระทู้ดังกล่าวของนางสาวเซียวเขียนเมื่อสิ้นเดือนเม.ย. ทำให้กลายเป็นประเด็นสนใจในชั่วสุดสัปดาห์ มีการกระจายต่ออย่างรวดเร็วในอินเทอร์เน็ต ผลก็คือนางสาวเซียวต้องลบกระทู้พร้อมภาพทั้งหมดออกจากบล็อก พร้อมกับขอโทษขอโพย “ขออภัย”
“ฉันรักเด็กจริง ๆ นะ แต่ฉันเคยทำในสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร ฉันหวังว่าชาวเน็ตและผู้ปกครองจะให้อภัยพฤติกรรมที่โง่เง่าของฉัน” เซียวเขียน แต่ชาวเน็ตกว่า 42,000 คน เขียนข้อความต่อว่า นางสาวเซียวขอโทษด้วยความไม่จริงใจและเธอเป็นสิ่งที่น่าอับอายของวงการพยาบาล
โรงเรียนการพยาบาลของเธอออกแถลงการณ์ออกมาระบุว่า ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนและจะให้มีการอบรมฝึกฝนด้านจริยธรรมและพฤติกรรมที่เหมาะสมให้กับนักศึกษาพยาบาลต่อไป
ดร. จัง เฉียง ศัลยแพทย์ด้านเส้นเลือดจากโรงพยาบาลโอเรียนทัลซั่งไห่ เผยว่า สถาบันพยาบาลฯ ควรจะไตร่ตรองเรื่องการจัดการและไต่สวนด้านการฝึกงานว่าอะไรเหมาะควร หากมีเรื่องไม่ดีก็ควรจะตักเตือน
“เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเปราะบาง ทำลายภาพลักษณ์วงการแพทย์และพยาบาล ทำให้ยากที่จะฟื้นภาพลักษณ์กลับมาได้ในเร็วพลัน” ดร.จังทิ้งท้าย