เอเยนซี--สำนักข่าวซินหวาอ้างแหล่งข่าวคณะกรรมการอำเภอเฉี่ยวจยา มณฑลหยุนหนัน รายงานเกิดเหตุหญิงระเบิดพลีชีพสืบเนื่องจากปัญหาไล่ที่ ตาย 3 ราย บาดเจ็บ 14 คน โดย 4 คน มีอาการสาหัส วันเดียวกันยังมีรายงานหญิงในกวางตุ้ง หมดอาลัยตายอยากในชีวิตหลังจากที่บ้านถูกรื้อถอน กระโดดตึกดับอนาถ
ต่อกรณีระเบิดพลีชีพในหยุนหนัน (หรือยูนนาน) ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ราว 09.00 น.ของเช้านี้ (10 พ.ค.) หญิงเจ้าของบ้านรายหนึ่งในตำบลไป๋เฮ่อทัน อำเภอเฉี่ยวจยา เมืองเจาถง ได้รับใบแจ้งให้ย้ายออกจากบ้าน
จึงไปยังศูนย์บริการสังคมเขตเฉี่ยวจยา เพื่อเซ็นชื่อในเอกสารข้อตกลงการรื้อถอนบ้านพร้อมกับค่าชดเชย
แต่หญิงคนดังกล่าวขอต่อรองค่าชดเชย ครู่หนึ่งเธอก็ได้ปลดชนวนระเบิดที่ติดอยู่กับตัวและเสียชีวิตในทันที พร้อมกันนี้ ระเบิดได้ปลิดชีวิตผู้คนรอบข้างอีก 2 ราย บาดเจ็บ 14 คน
เจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดย 4 คนมีอาการสาหัส ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลหยุนหนัน
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลท้องถิ่นกล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะไต่สวนเหตุระเบิดพลีชีพครั้งนี้แล้ว
บ้านโดนไถราบ หมดอาลัยตายอยากในชีวิต กระโดดตึกตาย
เช้าวานนี้ (9 พ.ค.) 10.30 น. เกิดเหตุรุนแรงสืบเนื่องจากปัญหาไล่ที่ที่ก่วงตง (หรือกวางตุ้ง) โดยหญิงวัย 40 ปี ชื่อ นางหลี่ เจี๋ยเอ๋อร์ ได้กระโดดจากชั้น 5 ของตึก ลงมาเสียชีวิตทันที
หลี่ เจี๋ยเอ๋อร์ เขียนในจดหมายลาโลกว่า เธอกระโดดตึกตายเพราะปัญหาไล่ที่
สืบเนื่องจากประกาศเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา แจ้งว่าจะมีการรื้อถอนบ้านเรือนจำนวนหนึ่งในหมู่บ้านหยังจี มณฑลก่วงตง โดยมีบ้านของนางหลี่ จี๋เอ๋อร์ รวมอยู่ด้วย และในวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ศาลเขตเย่ว์ซิ่ว ก็ได้ขึงเส้นห้ามเข้าล้อมรอบบริเวณบ้านที่จะทำการรื้อถอน ในตอนนั้น มีเพียง เสี่ยน ซีหย่ง ลูกชายคนโตของนางหลี่อยู่ในบ้าน
ราวเวลา 10.00 น. (22 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้บอกให้เซี่ยน ซีหย่ง ออกจากบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกกลุ่มได้ขนเฟอร์นิเจอร์ข้าวของในบ้านออกไปเหลือแต่ห้องว่างเปล่า และราว 10.45 น. ก็นำรถขุดมาไถบ้านเรือน จนในเวลา 11.00 น. รถขุดก็เดินเครื่องมาถึงบ้านเลขที่ 8 ของนางหลี่ เจี๋ยเอ๋อร์ แต่ดันไถผิดหลัง ไปรื้อบ้านของเพื่อนบ้านคนหนึ่งเข้า ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 7 เจ้าของบ้านคือ หวง ซู่ฟาง ได้โวยวายและปีนขึ้นไปประท้วงบนหลังคา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าไปช่วยดึงตัวนายหวงลงมา
ขณะนี้ บ้านเรือนที่ถูกขึงเส้นไว้ ถูกไถราบเป็นหน้ากลองไปหมดแล้ว
