เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ – ผู้ว่าฯ ฮ่องกงคนใหม่ประกาศปี 2556 (ค.ศ. 2013) แม่จากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่ได้มีสามีเป็นฮ่องกงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามมาคลอดใน รพ.เอกชนบนเกาะได้อีกต่อไป ส่วนเด็กก็ไม่แน่ว่าจะได้สิทธิ์การเป็นพลเมืองถาวรของฮ่องกงอีกด้วย สมาคม รพ.เอกชนฮ่องกงเผย รพ.หลายแห่งอาจเจ๊งหากนโยบายเปลี่ยน
เมื่อวันจันทร์ (16 เม.ย.) นายเหลียง เจิ้นอิง (Leung Chun-ying) ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนใหม่ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ว่า ในปีหน้า (2556) สตรีจากแผ่นดินใหญ่ที่มิได้มีสามีเป็นคนฮ่องกงจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้คลอดในโรงพยาบาลเอกชนบนเกาะฮ่องกงอีกต่อไป พร้อมกันนั้นยังระบุด้วยว่าเด็กที่เกิดจากพ่อและแม่ที่เป็นคนแผ่นดินใหญ่ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์การเป็นพลเมืองถาวรของฮ่องกงด้วย
การไหลบ่าของคนแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาแย่งชิงทรัพยากรจากพ่อแม่ชาวฮ่องกง กลายเป็นประเด็นใหญ่ระหว่างการเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเหลียงกล่าวเตือนว่า โควตาสำหรับคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่จะข้ามมาคลอดบนเกาะฮ่องกงในปีหน้าจะลดลงเหลือ “ศูนย์”
คำประกาศดังกล่าวของเหลียง สร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนบนเกาะฮ่องกงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่หลายโรงพยาบาลเพิ่งทุ่มเงินลงทุนไปจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนาหน่วยสูติศาสตร์ของโรงพยาบาล โดยหน่วยงานเหล่านี้อาจจะต้องถูกปิดลงหากนโยบายของเหลียงเป็นจริง
ความเห็นดังกล่าวของเหลียงถือว่าเป็นการแตกหักอย่างชัดเจนกับนโยบายของโดนัลด์ เจิง ผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนที่แล้วที่ระบุว่า อุตสาหกรรมทางการแพทย์เป็น 1 ใน 6 อุตสาหกรรมหลักของฮ่องกง โดยเหลียงกล่าวว่า “การให้บริการทำคลอดกับหญิงชาวแผ่นดินใหญ่มิใช่แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่ถูกต้อง”
อย่างไรก็ตาม เหลียงไม่ได้ระบุแนวทางการดำเนินการตามแผนดังกล่าวที่จะยกเลิกสิทธิ์โดยอัตโนมัติในการอยู่อาศัย ซึ่งได้รับการรับรองจากศาลฎีกาฮ่องกงในปี 2544 (ค.ศ. 2001)
“ชุมชนชาวฮ่องกงมีฉันทามติตรงกันว่า ไม่ว่าจะโดยมาตรการทางการบริหารจัดการ หรือวิธีทางกฎหมาย เด็กทารกที่มิใช่คนท้องถิ่นเหล่านี้ไม่ควรที่จะได้รับสิทธิ์ในการเป็นพลเมืองถาวร” เหลียงกล่าว และกล่าวต่อถึงกรณีเด็กที่มีแม่เป็นชาวแผ่นดินใหญ่ว่า “ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่า ในปี 2556 เด็กทารกที่เกิดในฮ่องกงเหล่านั้นจะได้รับสิทธิ์ในการเป็นพลเมืองหรือไม่”
ด้านเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในฮ่องกงเปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและสุขภาพของฮ่องกงมีการประเมินว่า โควตาการคลอดของคุณแม่จากแผ่นดินใหญ่บนเกาะฮ่องกงในปีหน้าจะอยู่ที่ราว 20,000 ถึง 25,000 คน หรือลดลงจากปีนี้ที่อยู่ที่ 31,000 คน
ประธานสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ดร.อลัน เลา กว๊อก-แลม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หากมาตรการของเหลียงถูกนำมาใช้จริง โรงพยาบาลบางแห่งที่วางแผนว่าจะให้บริการทำคลอดกับคุณแม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ก็อาจจะต้องปิดตัวลง โดยเขาประเมินว่า โรงพยาบาลในฮ่องกงจะต้องสูญเสียคนไข้ที่เป็นคุณแม่ชาวแผ่นดินใหญ่ราว 28,000 คน
ในปีนี้โรงพยาบาลของรัฐบนเกาะฮ่องกงมีโควตาในการทำคลอดให้กับคุณแม่จากแผ่นดินใหญ่ราว 3,400 ที่ โดยโควตาที่แน่ชัดจะมีการประกาศออกมาในช่วงสิ้นเดือนเมษายนนี้ หรือ 2 เดือนก่อนที่เหลียงจะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการเกาะฮ่องกงอย่างเป็นทางการ ขณะที่คณะกรรมการอาหารและสุขภาพของฮ่องกงให้สัมภาษณ์ถึงคำพูดของเหลียงว่า ทางคณะกรรมการเคารพในมุมมองของเหลียง และจะพยายามสื่อสารกับผู้ว่าการคนใหม่ถึงนโยบายดังกล่าวต่อไป
เหลียงกล่าวต่อว่า เขาไม่ได้มีความประสงค์จะแทรกแซงหรือกดดันไปยังคณะผู้บริหารฮ่องกงชุดปัจจุบัน “ผมเพียงแต่พูดว่า อะไรจะเกิดขึ้นในปี 2556 หลังจากที่ผมรับตำแหน่ง (ผู้บริหารสูงสุด)” เขากล่าว