ซีอีโอแอ๊ปเปิ้ลไปจีน หวังสะสางปัญหารุมเร้า

รอยเตอร์ - ทิม คุก ประธานกรรมการบริหาร (CEO) ของบริษัทแอ๊ปเปิ้ลระบุระหว่างการเยือนจีนครั้งแรก นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งแทนสตีฟ จ๊อบส์เมื่อเดือนส.ค.ปีที่แล้วว่า แอ๊ปเปิ้ลเพียงแค่เริ่มต้นในจีนเท่านั้น และกำลังหาทางขยายตลาด

คุกเดินทางเยือนจีนเมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา ( 27 มี.ค) ในช่วงที่แอ๊ปเปิ้ลกำลังประสบปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งกำลังเป็นเมฆหมอกปกคลุมตลาด ซึ่งมีศักยภาพใหญ่ที่สุดของแอ๊ปเปิ้ลแห่งนี้ นับตั้งแต่ปัญหาลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าไอแพดกับบริษัทของจีน ไปจนถึงปัญหาการปฏิบัติกับแรงงานในท้องถิ่น โดยคุกได้มีโอกาสหารือกับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลจีน แม้รายละเอียดการเดินทางของเขาไม่ค่อยมีการเปิดเผยเท่าใดนัก แต่แหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมระบุว่า ซีอีโอของแอ๊ปเปิ้ลได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน

ปัจจุบันจีนเป็นตลาดโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลก และกลายเป็นตลาดใหญ่สุดอันดับ 2 ของแอ๊ปเปิ้ลไปแล้ว นอกจากนั้น จีนยังเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่สุดของแอ๊ปเปิ้ล อย่างไรก็ตาม แอ๊ปเปิ้ลมีร้านจำหน่ายเพียง 5 แห่งที่นี่ แม้ว่ามีการขายปลีกผ่านพ่อค้าคนกลางกว่า 100 รายก็ตาม นอกจากนั้น แอ๊ปเปิ้ลยังกำลังสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนให้กับบริษัทคู่แข่งอย่างซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังไม่มีการเปิดตัวเวอร์ชั่นล่าสุดของไอแพดเวอร์บนแผ่นดินใหญ่ ทั้งที่ได้วางจำหน่ายไปแล้วในหลายประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ เช่นสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และฮ่องกง โดยในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว แอ๊ปเปิ้ลครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต 3 ใน 4 ในจีน และไอโฟนติดอันดับ 5 ในตลาดสมาร์ตโฟนที่นี่

อย่างไรก็ตาม แอ๊ปเปิ้ลแก้ปัญหาการสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดด้วยการทำจับมือทำสัญญากับสองบริษัทผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของจีนคือไชน่าเทเลคอม และไชน่ายูนิคอม เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายไอโฟน ขณะที่ไชน่าโมบาย ก็กำลังเล็งทำสัญญากันในอนาคต

ด้านผู้บริหารของโพรวิว บริษัทเทคโนโลยี ซึ่งฐานะการเงินกำลังย่ำแย่ และอ้างว่าได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไอแพดเป็นของตนแล้วนั้น ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับแอ๊ปเปิ้ลในหลายศาลของจีน และขู่ที่จะขัดขวางการจำหน่ายไอแพด โดยแหล่งข่าวระบุว่า ยังไม่มีการกำหนดนัดพบหารือระหว่างคุกกับฝ่ายกฎหมายและเจ้าหนี้ของโพรวิวแต่อย่างใด ด้านเหอจวิน แวนการ์ด กรุ๊ป (Hejun Vanguard Group) บริษัทที่ปรึกษา ซึ่งทำหน้าที่ตัวแทนของบรรดาเจ้าหนี้ของโพรวิวประกาศว่า จะต่อสู้คดีลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้ากับแอ๊ปเปิ้ล แม้นานถึง 10 ปี หรือมากกว่านั้น ก็ยอม

สำหรับปัญหาสภาพการทำงานที่เลวร้าย ซึ่งถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่าเป็นโรงงานนรกที่โรงงานประกอบชิ้นส่วนไอโฟนและไอแพดของบริษัทฟ้อกซ์คอนน์เทคโนโลยีกรุ๊ป (Foxconn Technology Group) สัญชาติไต้หวันนั้น แอ๊ปเปิ้ลกำลังมีการทบทวนมาตรฐานแรงงาน และได้เริ่มเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานรายเดือน โดยแอ๊ปเปิ้ลระบุในเว็บไซต์ว่า สามารถปฏิบัติตามนโยบายการทำงานสัปดาห์ละ 60 ชั่วโมงของบริษัทได้ครอบคลุมคนงานถึงร้อยละ 89 ในเดือนก.พ.จากร้อยละ 84 ในเดือนม.ค. จากการสำรวจคนงาน 5 แสนคนในโรงงานผลิตชิ้นส่วนป้อนในทั่วโลก