รอยเตอร์ส/เอเยนซี - แพนด้ายักษ์ นอกจากจะเป็นสัตว์ประจำชาติล้ำค่าของประเทศจีน เป็นฑูตเชื่อมสัมพันธ์ในระดับนานาชาติ เป็นเพื่อนสนิทของเด็กๆ ล่าสุด แพนด้า ยังสร้างค่ามหาศาลให้กับนักธุรกิจชารายหนึ่งซึ่งนำมูลแพนด้ามาทำปุ๋ยเพาะปลูกชาชนิดพิเศษ เป็นชาออร์แกนิกที่ขายได้ราคาสูงถึง แก้วละ 6,600 บาท
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานวันที่ 19 มี.ค. ว่า อัน เยี่ยนสือ ผู้ปลูกชาบนภูเขาเมืองหย่าอัน นครเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ได้เปิดตัวชาออร์แกนิกชนิดใหม่ที่แพงที่สุดในโลก "ชาแพนด้า" ซึ่งนำมูลแพนด้าจากสถานีวิจัยแพนด้าที่นครเฉิงตู และเมืองหย่าอันจำนวนหลายตัน มาเป็นปุ๋ยให้ต้นชาโดยเฉพาะ
อัน เยี่ยนสือ เริ่มปลูกชาพิเศษชนิดนี้ เมื่อปีที่แล้ว โดยลงทุนไปเกือบ 1 ล้านหยวน (ราว 5 ล้านบาท) จนเป็นข่าวดังเมื่อปีกลาย ถึงไอเดียของผู้ประกอบรายนี้ ซึ่ง อัน เยี่ยนสือ กล่าวถึง สาเหตุที่เขานำมูลแพนด้ามาเป็นปุ๋ยให้กับต้นชาของเขา จากการวิจัยค้นคว้าพบว่า ในมูลแพนด้าล้วนประกอบด้วยธาตุอาหารในสัดส่วนถึงร้อยละ 70 เพราะอาหารที่แพนด้ากัดกินซึ่งมีเพียงใบไผ่จากธรรมชาตินั้น ถูกดูดซึมไปใช้เพียงร้อยละ 30 เท่านั้น สารอาหารที่เหลือจึงขับออกมาเป็นธาตุอาหารบริสุทธิ์ ที่บำรุงต้นชาให้ผลิตใบชาพิเศษ แตกต่างจากทุกไร่ชาในจีน ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ถ้าไม่ปลูกด้วยปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไปก็มักจะใช้ปุ๋ยเคมี
รายงานข่าวกล่าวว่า ราคาของชาแพนด้าซึ่งผลิใบชุดแรกนี้ มีราคาสูงมาก ขายกันที่ 110,000 บาท (22,000 หยวน) ต่อ 50 กรัม (กรัมละ 2,200 บาท) และโดยปกติชาหนึ่งถ้วยที่ใช้ชงจิบกันนั้น จะใช้ปริมาณใบชา 3 กรัม จึงเท่ากับว่าชาแพนด้านี้ราคาถ้วยละ 6,600 บาท เป็นสถิติราคาน้ำชาที่แพงที่สุดในโลก
อัน เยี่ยนสือ กล่าวว่า "ไม่ต้องห่วงว่าราคาจะแพงไป เพราะใบชานี้ เป็นใบชาชุดแรกของต้นชาแพนด้าซึ่งบริสุทธิ์มาก มีเพียง 21 ชุดเท่านั้น โดยแบ่งจำหน่ายเพียงชุดละ 50 กรัม ที่ราคา 110,000 บาท (22,000 หยวน) นอกจากนั้น ราคานี้ยังขึ้นอยู่กับว่าเก็บในฤดูกาลใด โดยปกติ ชาที่เก็บในช่วงต้นปี /ฤดูใบไม้ผลิ จะเป็นชาที่มีราคาแพงที่สุด
"ผมขอบพระคุณฟ้าดิน ที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับการปลูกชาแพนด้านี้" นักธุรกิจใบชาแพนด้าคนแรกของโลก วัย 41 ปี ที่เปลี่ยนอาชีพจากครูและนักข่าวมาปลูกชาฯ กล่าวและว่า กำลังอยู่ระหว่างเดินสายให้ความรู้และโปรโมท "ชาแพนด้า" นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไอเดียในการเติมมูลค่าเชิงสร้างสรรค์ให้กับเกษตรกรจีนรายอื่นๆ จำนวนมากให้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เกษตร พร้อมๆ ไปกับตระหนักในบุญคุณของดิน ฟ้า อากาศ และแพนด้ายักษ์ สัตว์คู่บ้านแผ่นดินมังกร โดยรายได้ส่วนหนึ่งของการขาย "ชาแพนด้า" ก็จะตั้งเป็นกองทุนโครงการสิ่งแวดล้อมด้วย
