เอเยนซี - ลามะทิเบตนามว่า จามยัง พาลเดน ได้จุดไฟเผาตนเองในถ่งเหริน มณฑลชิงไห่ แต่รอดชีวิตได้หลังเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความสงบ รีบเข้าไปดับไฟ โดยในรอบปีที่ผ่านมา มีชาวทิเบตประท้วงเรียกร้องสิทธิฯ จุดไฟเผาร่างกายตนเอง มากกว่า 24 คนแล้ว
สื่อจีนและกลุ่มนักเคลื่อนไหวปลดปล่อยทิเบต ในอังกฤษ รายงานวันที่ 15 มี.ค. ว่า ลามะทิเบตอีกรูป ในมณฑลชิงไห่ ได้จุดไฟเผาตนเองจนได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบได้เข้าดับไฟทัน
รายงานข่าวกล่าวว่า ลามะทิเบตรูปนี้ มีนามว่า จามยัง พาลเดน ได้จุดไฟเผาตนเองในถ่งเหริน มณฑลชิงไห่ แต่รอดชีวิตได้หลังเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความสงบ รีบเข้าไปดับไฟ ในรอบปีที่ผ่านมา มีชาวทิเบตประท้วงเรียกร้องสิทธิฯ จุดไฟเผาร่างกายตนเอง มากกว่า 24 คนแล้ว
องค์กรปลดปล่อยเอกราชทิเบต (กลุ่มฟรีทิเบต) แถลงวันที่ 15 มี.ค. ว่า ลามะพาลเดน ในชุดที่ชุ่มโชกด้วยน้ำมัน พร้อมไฟแช็ค ได้เดินไปที่จตุรัสสาธารณะ ข้างๆ วัด Rongwo และตะโกนคำว่า "ขอเรียกร้องให้องค์ทะไลลามะได้กลับแผ่นดิน ขอให้ทิเบตเป็นเอกราช" อยู่ 3 ครั้ง ก่อนที่จะจุดไฟเผาร่างกาย และทันใด เจ้าหน้าที่รักษาความสงบฯ ก็ได้พุ่งเข้าไปช่วยกันดับไฟ
รายงานขององค์กรฯ นี้ ระบุว่า ลามะพาลเดน ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที แต่กลุ่มลามะ ได้พาเขากลับมาที่วัดเพราะเกรงจะถูกจับกุมตัว พร้อมกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ลามะพาลเดน เคยเข้าร่วมในการประท้วงของชาวทิเบตเมื่อปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นการลุกขึ้นประท้วงครั้งใหญ่สุดเพื่อต่อต้านการปกครองทิเบตของจีน
สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฯ ได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ลามะพาลเดน เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลก่อน เพื่อไม่ให้อาการบาดเจ็บรอยไหม้จากไฟลวกลุกลามรุนแรง
ด้านนายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า ได้แถลงในวันเดียวกันว่า เขาต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ รวมทั้งการเผากายตนเอง และรู้สึกเศร้าเสียใจที่เห็นชาวทิเบตผู้อ่อนเยาว์เข้าร่วมกระทำการเหล่านี้ ขณะเดียวกันก็ยังย้ำว่า ทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่ไม่อาจแบ่งแยก
เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ที่เพิ่งพบปะกับผู้แทนของทิเบตในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันศุกร์ (9 มี.ค.) และได้เรียกร้องให้ชาวทิเบตรักษาความมั่นคง ส่งต่อข้อความเกี่ยวกับเอกภาพของชนกลุ่มน้อย และการรักษาเอกภาพของแผ่นดินแม่ให้ธำรงอยู่
สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า หูกล่าวในการแถลงข่าวด้านข้างของการประชุมสภาประจำปีฯ ว่า “ความมั่นคงและสมานฉันท์ควรจะเกิดขึ้นและธำรงไว้ในภูมิภาคทิเบต ขณะที่ต้องยกระดับการจัดการทางสังคมเพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ ชาวทิเบตจำนวนหนึ่งและนักวิชาการนักเขียน ได้เริ่มอ้อนวอนให้ลามะหยุดการจุดไฟเผากายตนเพื่อประท้วงเรียกร้องสิทธิจากรัฐบาลจีน เพราะคงไม่ได้ผลใดๆ ขณะที่รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ ก็กล่าวหาว่า ผู้สนับสนุนองค์ทะไลลามะ เป็นผู้บงการปลุกระดมสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้ผู้ประท้วงทั้งลามะแลชาวทิเบตทำการนี้ ซึ่งแม้ว่า องค์ทะไลลามะ จะเคยกล่าวว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการประท้วงใดๆ แต่ก็ได้กล่าวยกย่องชื่นชมในความอาจหาญของพวกเขาเหล่านั้นที่ยอมสละชีวิต และลุกขึ้นต้านสิ่งที่เขาเรียกว่า "การล้างทำลายทางวัฒนธรรมและชนชาติ" ในทิเบต