เอเยนซี - นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวจีนคนหนึ่งลุกขึ้นประท้วงธนาคารโลก ตะโกนวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่า ที่ธนาคารโลกอาจหาญมาบอกให้จีนทำภาคธุรกิจส่วนที่รัฐเป็นเจ้าของให้กลายเป็นเอกชนนั้น ถือว่าเป็นยาพิษที่หยอดใส่เศรษฐกิจจีน
นายตู้ เจียงกั๋ว ได้ลุกขึ้นประท้วงในช่วงการแถลงข่าวต่อหน้าประธานธนาคารโลก นาย Robert Zoellick ณ ที่ทำการใหญ่ของธนาคารโลกประจำกรุงปักกิ่ง (28 ก.พ.)
“อุตสาหกรรมที่รัฐเป็นเจ้าของนั้นไม่ควรจะกลายเป็นของเอกชน” ตู้ตะโกนขึ้นในระหว่างที่ Zoellick กำลังปราศรัย เขาย้ำว่า “รายงานจากเวิลด์แบงก์นี้เป็นยาพิษ”
เมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.) ธนาคารโลกได้ออกรายงานชื่อว่า “จีนปี 2030 : การสร้างความทันสมัย ความเป็นหนึ่งเดียว และสังคมสร้างสรรค์รายได้สูง” ซึ่งภายในระบุหนทางก้าวเดินสำหรับจีนให้ไปพ้นจากรูปแบบเศรษฐกิจที่รัฐเป็นเจ้าของ ให้เข้าสู่รูปแบบบรรษัทเอกชน เพื่อสร้างตลาดเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับโลก
อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวฯ ก็สอดคล้องกับที่ศูนย์วิจัยการพัฒนาของจีนศึกษา ซึ่งยังระบุด้วยว่า จีนจำเป็นต้องปฏิรูปเศรษฐกิจและภาคแรงงานอย่างเข้มข้น
ตู้ถูกนำตัวออกจากห้องแถลงข่าว แต่เขาก็ยังคงทำการประท้วงด้านนอกต่อ ตู้อ้างว่า ธนาคารโลกกำลังทำให้ภาคการธนาคารของจีนวิบัติอย่างหนัก ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นที่คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นวอลสตรีทของสหรัฐฯ
ตู้ถามว่า “พวกเขาต้องการทำให้การธนาคารของจีนเป็นสถาบันที่เชื่อถือไม่ได้ และเป็นแค่ปรสิตใช่ไหม”
“พวกเราไม่มีเหตุผลที่ต้องกินยาพิษของเวิลด์แบงก์” ตู้ตะโกนย้ำ ๆ “หลังจากที่พวกมันทำลายจีนแล้ว มันก็จะไปทำลายโลกทั้งใบต่อ”
ผู้สนับสนุนหลักการรัฐเป็นเจ้าของกิจการสำคัญของประเทศหลายคน ก็ออกมาโต้แย้งสอดคล้องกับตู้ว่า การที่รัฐทำหน้าที่เป็นเจ้าของบริหารแหล่งทรัพยกรสำคัญของชาตินั้นนับว่าเป็นจุดแข็ง น่าภาคภูมิใจและควรได้รับการปกป้องไม่ให้สิ่งสำคัญของชาติตกเป็นของเอกชน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่เห็นด้วยหลายคนก็ชี้ว่า ยิ่งทำให้เศรษฐกิจเป็นเสรีและทำให้กลายเป็นเอกชนมากขึ้น จะยิ่งสร้างงานให้กับคนในชาติ และจะทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ดี
คลิปข่าวจาก NBC
Visit msnbc.com for breaking news, world news, and news about the economy