xs
xsm
sm
md
lg

วงดนตรีกระชับมิตรจีน-สหรัฐฯ เสียงยังไม่ประสานกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งจีนกับประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าแห่งสหรัฐฯ หารือกันระหว่างการมาเยือนกรุงวอชิงตันของรองประธานาธิบดีสีเมื่อสัปดาห์ก่อน - เอเอฟพี
รอยเตอร์ - การเยือนสหรัฐฯ ของรองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่าน (17 ก.พ.) โดยฝ่ายสหรัฐฯ ต้อนรับว่าที่ผู้นำแดนมังกรคนต่อไปอย่างเอาอกเอาใจ และสมเกียรติ ขณะเดียวกันรอยยิ้มและท่าทีเป็นกันเองของรองประธานาธิบดีสีก็สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ ที่ตึงเครียดระหว่างพญามังกรกับพญาอินทรี กลายมาเป็นเสมือนเสียงดนตรี อันมีท่วงทำนองเบา ๆ ฟังสบาย ๆ ได้

การต้อนรับอย่างอบอุ่นของสหรัฐฯ ย่อมบอกเป็นนัย ว่า สหรัฐฯ มองการผงาดสู่อำนาจของรองประธานาธิบดีผู้นี้ว่าคือโอกาส ที่จะทำให้ความไม่ลงรอยทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างสองชาติมหาอำนาจแคบลง อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนักวิเคราะห์แล้ว เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น

ขณะนี้มีความมั่นใจกันอย่างแน่นอนแล้วว่า ท่านสีจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสืบต่อจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทาในเวลาอีกแค่หนึ่งปีกว่าเท่านั้น

ประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า รองประธานาธิบดี โจ ไบเด้น และสมาชิกระดับอาวุโสของรัฐสภาสหรัฐฯ ต้อนรับอย่างเอาใจ ไปพร้อมๆ กับการระดมเรียกร้องหลายข้อเอากับท่านสี ตั้งแต่ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งปรับความสมดุลทางการระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งตกเป็นฝ่ายขาดดุล การช่วยสหรัฐฯ เข้าจัดการกับปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก และผ่อนคลายการปราบปรามควบคุมฝ่ายต่อต้านในทิเบต

รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัก โอบาม่าต้องการทำให้แน่ใจว่า ท่านสีจะนำข้อเรียกร้องเหล่านี้ไปดำเนินการ เมื่อเขาขึ้นสู่อำนาจ

นาย เจ.สเทเพิลตัน รอย อดีตเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งระหว่างปีพ.ศ. 2534-2538 และปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการของสถาบันคิสซิงเจอร์ว่าด้วยจีนและสหรัฐฯ ระบุว่า จีนก็ไม่แตกต่างจากชาติอื่น ๆ ในแง่ที่ว่า หากผู้นำคนเดิมยังมีอำนาจ การจะไปเปลี่ยนแปลงนโยบาย ที่กำหนดไว้แล้วย่อมทำได้ยากกว่า แต่ในขณะนี้จีนกำลังเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนผู้นำ จึงมีโอกาสมากขึ้น ที่คนภายนอกจะเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม นายโรเบิร์ต คุห์น นักเขียนประวัติผู้นำจีน และได้มีโอกาสพบกับรองประธานาธิบดีสีระบุว่า ในทัศนะของสหรัฐฯ การเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนเป็นโอกาสตามปกติอยู่แล้ว ที่จะได้มีการกำหนดความสัมพันธ์กันใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้การพูดคุยปัญหากับท่านสีดูจะง่ายกว่ากับประธานาธิบดีหู แต่ความตึงเครียด ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานในรัฐบาลประธานาธิบดีหูก็น่าจะดำเนินต่อไปไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งต่อจากประธานาธิบดีหู หรือใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. นี้

ด้านนายมิตต์ รอมนีย์ ตัวเก็งที่อาจได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีแข่งกับนายโอบาม่า ออกมาวิจารณ์ชนิดสับแหลกนโยบายเกี่ยวกับจีนของประธานาธิบดีโอบาม่า และเรียกการพบปะระหว่างประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตกับนายสีว่า “ความโอ่อ่าหรูหรา ที่ว่างเปล่า” อันสะท้อนว่า ความเห็นขัดแย้งกันเองภายในสหรัฐฯ อาจทำให้ความพยายามสร้างความสัมพันธ์อย่างราบรื่นกับจีนทำได้ยากขึ้น

ส่วนรองประธานาธิบดีสีเอง แม้ประกาศไมตรีจิตในการมาเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมเตือนสหรัฐฯ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะมั่นคงและราบรื่น ตราบใดที่ยังคงมีการเคารพผลประโยชน์หลักของแต่ละฝ่าย ซึ่งท่านสีหมายถึงกรณีที่สหรัฐฯ ขายอาวุธให้ไต้หวัน และการแสดงความเห็นใจเข้าข้างฝ่ายต่อต้านในทิเบตนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น