เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กลุ่มกรีนพีซเผยรายงานว่าของเล่นบนชั้นวางขายในร้านค้าที่ฮ่องกงและบนแผ่นดินใหญ่เกือบ 1 ใน 3 ปนเปื้อนสารพิษโลหะหนัก และอีกร้อยละ 10 พบปริมาณตะกั่วมากกว่ามาตรฐานของชาติ
อาดา คง ชุก ผู้รณรงค์ของกลุ่มกรีนพีซ เอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อม เผย (7ธ.ค.) ว่า เธอและเพื่อนร่วมงานได้ไปหาซื้อของเล่นในฮ่องกง และในอีก 4 เมืองใหญ่บนแผ่นดินจีน ได้แก่ กรุงปักกิ่ง ซั่งไห่ ก่วงโจว และอู่ฮั่น ใน 1 เดือนสามารถรวมตัวอย่างของเล่นได้ 500 ชิ้น และทำการตรวจสอบด้วยเครื่องสแกนเอ็กซ์เรย์ด้วยมือ ที่สามารถพบสารพิษโลหะหนักได้ 6 จำพวก อันได้แก่ พลวง สารหนู แคดเมียม โครเมียม ตะกั่ว และปรอท ซึ่งสารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกายมหันต์ แม้ได้รับในปริมาณเล็กน้อยก็ตาม
ของเล่นแหวนสีเขียวชิ้นหนึ่ง อ่านค่าสูงสุดมีตะกั่วปนเปื้อนถึง 120,960 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ซึ่งเกินมาตรฐานความปลอดภัยของจีน 200 เท่า และเกินของสหรัฐฯ ถึง 1,300 เท่า
คงเผยว่า “ของเล่นปนเปื้อนเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นพิษภัยกับเด็กเวลาอมหรือสัมผัส แต่ยังสามารถระเหยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเด็กได้ด้วย”
กรีนพีซ เผยว่า หลังจากตรวจสอบพบว่าเกือบร้อยละ 70 ของตัวอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากโรงงานบนแผ่นดินใหญ่นั้น ไม่ได้ปนเปื้อนสารพิษโลหะหนัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตนั้นมีศักยภาพในการทำของเล่นเด็กแล้ว
เจ้าของโรงงานของเล่นหรงจวิ้น ในซ่านโถว มณฑลก่วงตง ซึ่งผลิตของเล่นจำพวกรถ กลุ่มกรีนพีซเผยว่ามีสารตะกั่วปนเปื้อน 700 ส่วนต่อล้านส่วน เธอแปลกใจมากกับรายงานของกลุ่มกรีนพีซ
“โรงงานของเราได้รับการรับรองด้านคุณภาพจากหน่วยงานของรัฐบาลจีน ว่าผลิตภัณฑ์ของเราและเทคโนโลยีการผลิตมีศักยภาพเพียงพอ สินค้าของพวกเราต้องปราศจากสารพิษโลหะหนัก” เธอย้ำ พร้อมกันนั้นบริษัทก็ได้สั่งการตรวจสอบไปยังวิศวกรของตนอีกครั้งแล้ว
การตรวจสอบระดับชาติของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านคุณภาพ การตรวจสอบและการกักกันของจีนในปีนี้ ได้ทำการทดสอบตัวอย่าง 240 ชิ้นบนแผ่นดินจีน พบเพียง 1 ชิ้นที่มีระดับสารพิษโลหะหนักเกินมาตรฐาน
ซุน เสี่ยวกง ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทไชน่า เซอร์ติฟิเคชั่น แอนด์ อินสเปคชั่น กรุ๊ป เผยว่า ความต่างของผลการทดสอบน่าจะเป็นเพราะวิธีการทดสอบที่ต่างกัน ขณะที่กลุ่มกรีนพีซได้ทำการตรวจวัดปริมาณของสารพิษโลหะหนักที่ผิวของผลิตภัณฑ์ แต่รัฐบาลได้ใช้วิธีการที่แยบยลกว่านั้นมาก โดยทำการแช่ตัวอย่างในน้ำยาเคมี ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายกับเหงื่อของมนุษย์และของเหลวในกระเพาะอาหาร เพื่อหาว่าสารพิษนั้นจะรั่วออกมาจากตัวอย่างมากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาหนึ่ง
“ผู้ประกอบการของเล่นรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องสารพิษโลหะหนัก เนื่องจากพวกเขาได้กำไรมหาศาลจากการส่งออกสินค้า ส่วนรายเล็กนั้นต้องดิ้นรนมากหน่อย เนื่องจากการแข่งขันสูง จึงต้องหันมาประหยัดต้นทุนการผลิต ต้องยืดหยุ่นด้านวัตถุดิบ ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นด้อยคุณภาพหรืออาจมีการเจือปนได้” ซุนทิ้งท้าย.